Honda CB650F / CBR650F Full Review 2014

Review by CBRsCLUB.com

จากการแข่งขันตลาดรถมอเตอร์ไซค์ที่เข้มข้นในประเทศไทย ผู้ที่ติดตามในวงการต่างได้ยินข่าวลือจาก ฮอนด้า (Honda) ประเทศไทย ว่าถึงการเปิดไลน์การผลิตของรถรุ่นหนึ่ง ในตระกูล CBR ที่นิยามไว้ว่า “4 สูบเรียง” ซึ่งว่ากันว่าเป็นความใฝ่ฝันของนักบิดในบ้านเราที่ถวิลหากันมานาน กับรถสปอร์ต 4 สูบที่ผลิตในประเทศ

และเมื่อช่วงวันที่ 7-10 พฤศจิกายน 2013 ที่เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี หนึ่งในงานมหกรรมแสดงรถจักรยานยนต์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลก “EICMA 2013” ค่ายฮอนด้าก็ไม่ทำให้ผิดหวัง เมื่อหนึ่งในไฮไลท์สำคัญในงานคือการเปิดตัวรถ 2 โมเดล คือCBR650F(สปอร์ต) และ CB650F(เนคเคด) ซึ่งถือว่าเปิดการเปิดตัวที่แรกของโลก

– หนึ่งในภาพแรกของรถโมเดล CBR650F (สปอร์ต)  2014 ที่ปรากฏต่อสายตาชาวโลก

– หนึ่งในภาพแรกของรถโมเดล CB650F (เนคเคด) 2014 ที่ปรากฏต่อสายตาชาวโลก

และเสียงเฮก็ตามมาติดๆ ด้วยการเปิดตัวในงาน Motor Expo 2013 ที่เมืองทองธานี กรุงเทพฯ ประเทศไทย ซึ่งเป็นฐานการผลิตรถ 2 รุ่นนี้ เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน – 10 ธันวาคม 2013 ซึ่งได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากนักบิดชาวไทย ด้วยยอดจองถล่มถลายกว่าพันคัน และเริ่มส่งมอบรถล็อตแรกในประเทศไทยไปแล้วเมื่อช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา

 CBRsCLUB ได้รับเกียรติจาก AP Handa ประเทศไทยให้มาทดสอบรถทั้งสองรุ่น ซึ่งโอกาสที่ดีอย่างนี้เราไม่พลาดแน่นอน จึงเป็นที่มาของการจัดทำ Review 650 Serie เชื่อว่ารีวิวนี้จะคลายความสงสัยในเบื้องต้นของหลายๆท่านที่ยังสงสัยกันอยู่ว่าทั้ง 2 โมเดล CBR650F (สปอร์ต)  และ CB650F (เนคเคด) นี้ทำไมถึงได้รับเสียงตอบรับที่ดี และความนิยมไปทั่วโลก

เริ่มต้นกันที่…

 CB650F NEVER SURRENDER

Honda CB650F (เนคเคด) 2013 เป็นรถมอเตอร์ไซค์ เนคเคด (Naked) พิกัด 650 ซีซี 4 จังหวะ 4 สูบเรียง DOHC 16 วาว์ล 6 สปีด 87 แรงม้า ระบบจ่ายน้ำมันแบบหัวฉีด PGM-FI ระบายความร้อนด้วยน้ำ เฟรมรูปแบบ A Steel Daimond มิติรถขนาด 2110 x 775 x 1120 มม. ล้อหน้า 6 ก้านแยก อลูมิเนียม รัดด้วยยางขนาด  120/70 มาพร้อมระบบ ABS ดิสก์เบรคลูกสูบคู่ 320 มม. ล้อหลัง 6 ก้านแยก อลูมิเนียม รัดด้วยยางขนาด 180/55  ลูกสูบเดี่ยวขนาด 240 มม. ABS ความจุถังน้ำมันเชื้อเพลิง 17.3 ลิตร น้ำหนักรวมอยู่ประมาณที่ 212 กก.

โดยจุดเด่นของ Honda CB650F (เนคเคด) รุ่นนี้คือ

– เครื่องยนต์แบบ 4 สูบแถวเรียง DOHC หัวฉีด PGM-FI ขนาด 650 ซีซี

 

– ท่อไอเสีย ที่ออกแบบมาให้อยู่ในแนวกลางรถ ให้จุดศูนย์ถ่วงต่ำ เพื่อการเข้าโค้งที่ดี และสวิงอาร์มแบบอลูมิเนียม

 

– ระบบกุญแจชิพ H.I.S.S. มั่นใจ ป้องกันการโจรกรรม เทคโนโลยีเฉพาะจากฮอนด้า

 

– ดิสก์เบรคหน้าระบบลูกสูบคู่ ขนาด 320 มม. พร้อมด้วยระบบ ABS

และรูปทรงที่โฉบเฉี่ยว  แฮนด์บาร์ทำให้บังคับง่าย ท่านั่งสบาย โดยรวมแล้วเหมาะสำหรับการขับขี่ในเมืองมาก ภายนอกตอบโจทย์ได้แทบทุกอย่างกับสิ่งที่ให้มากับรถ ทั้งกำลังเครื่องยนต์ ระบบความปลอดภัย ฟิลลิ่งการขับขี่ มิติรถต่างๆ เมื่อเดินดูภายนอกกันจนจุใจ ก็เริ่มลงมือทดสอบกัน โดยทดสอบกันที่ศูนย์ขับขี่ปลอดภัยฮอนด้า สุขาภิบาล 3 โดยนักขี่ R2M (หน่อย) อภินันทน์ ลุเอี่ยม อากาศพร้อม สนามพร้อม คนพร้อม รถพร้อม ก็ไปลุยกันเลย

เมื่อเริ่มค่อมรถก็ต้องดูในส่วนของ Cockpit ของทั้ง 2 โมเดลนี้จะเหมือนกันทั้งหมด โดยประกอบไปด้วย

ส่วน Cockpit ของ CB650F (เนคเคด) ด้านตรงประกอบไปด้วย เรือนไมล์ดิจิตอล ที่แยกไมล์วัดรอบความเร็ว และหน้าต่างแสดงระบบต่างๆ เช่น Tripmeter ระยะกิโลฯ นาฬิกา เชื้อเพลิง แยกกันอย่างชัดเจน ตำแหน่งบอกไฟเลี้ยว ไฟสูง ไฟฉุกเฉินอยู่ตรงกลางของเรือนไมล์

ประกับด้านซ้ายกระกอบไปด้วย ไฟสูง ไฟขอทาง ไฟฉุกเฉิน แตรและเปิดไฟเลี้ยว ตามลำดับ ตำแหน่งวางปุ่มใช้งานได้ง่าย ส่วนด้านขวามีปุ่ม Engine Stop และปุ่ม Engine Start

 

– ประกับด้านซ้าย CB650F (เนคเคด)

– ประกับด้านขวา CB650F (เนคเคด)

จากนั้นก็เริ่มทำการทดสอบขับขี่กัน เริ่มจากการวอร์มคน วอร์มรถก่อน แล้วก็เริ่มเปิดคันเร่งสุดในระยะทางตรง ดูอัตราการตอบสนองของรถและทดสอบระบบเบรค ดิสก์เบรค ลูกสูบคู่ ต่อด้วยการทอสอบวิ่งแบบสลาลม เป็นระยะเวลากว่า 1 ชม. ได้ข้อสรุปมาดังนี้สำหรับเจ้า Honda CB650F (เนคเคด)

อันดับแรกเลยคือความสนุกในการขี่ ถึงเจ้า CB650F (เนคเคด) นี้ถึงจะมีน้ำหนักตัวที่มากถึงประมาณ 212 กก. (ในกรณีเชื้อเพลิงเต็มถัง) แต่ไม่ก่อให้เกิดอุปสรรคเลยในการขับขี่ เพราะด้วยจุดศูนย์ที่ต่ำตามหลักการออกแบบทำให้เรา สามารถบังคับเลี้ยวได้ง่าย คล่องตัว การวิ่งสลาลมจะรู้สึกสนุกมาก และด้วยการที่เป็นรถ 4 สูบเรียง 650 ซีซี การผ่อนคันเร่ง ใช้เอนจิ้นเบรคช่วยก็ทำได้อย่างนุ่มนวล ระบบเบรคก็ทำงานได้ดี ด้วยระบบ ABS ทำให้ไม่ต้องกังวลใจมากเรื่องล้อล็อค เวลาเบรคกระทันหัน หรือเบรคบนพื้นถนนเมืองไทยที่มีกรวดทรายอยู่ เมื่อต้องการเปิดคันเร่งเพื่อออกตัว รถก็พุ่งทะยานออกตัวได้ด้วยกำลังเครื่องที่เหลือๆ โดยรวมแล้วเป็นรถที่ขี่ง่าย และขี่สนุกมากคันนึงทีเดียว และด้วยอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงอยู่ที่ประมาณ 20 กิโล/ลิตร จะใช้งานในเมืองก็ดี วิ่งออกเที่ยวบ้างก็สบายๆ

 

ข้อเสียของ CB650F (เนคเคด) นี้จะเป็นเรื่องของความร้อนที่ต้นขา ที่มาก ถ้าไม่ใส่ขายาวหรือยีนส์นี่มีสิทธิ์สุกได้ (ขานะ) และด้วยเครื่อง 4 สูบที่ใหญ่ ทำให้เครื่องเกินออกมาจากเฟรมรถระดับนึง และตำแหน่งที่เกินมันง่ายมากซะด้วยที่ขาจะไปโดนโดยไม่รู้ตัว รู้ตัวก็แสบไปแล้ว และด้วยทรงรถเนคเคด ทำให้ท่านั่งผู้ขี่ปะทะลมเต็มๆ เดินทางไกลจะเมื่อยได้ง่าย เพราะรถเร็วทำให้ต้องเกรงตัวสู้ลมเยอะตามไปด้วย

สำหรับราคารถโมเดลนี้ ขายในไทยอยู่ที่ 285,000 บาท อะไรนะ!!รถ 4 สี่สูบเรียง ดิสก์เบรคลูกสูบคู่ พ่วงด้วยระบบ ABS ไฟท้าย LED ฯลฯ เป็นราคาที่เปิดออกมาได้ถูกมากๆ เป็นส่วนช่วยในการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคอย่างเราได้ดีทีเดียว ส่วนสีที่ขายในไทยจะมี 3 สี คือสี Tri-Colour (ทริคัลเลอร์) เหลือง (Pearl Queen Bee Yellow) และ ดำด้าน (Mat Gunpowder Black Metallic) ราคาจะต่างกันเฉพาะสี Tri-Colour (ทริคัลเลอร์) สีพิเศษเพิ่มอีก 3,000 บาท เป็น 288,000 บาท ตามลำดับ

หลายๆคนคงได้คำตอบแล้วว่า ทำไม CB650F (เนคเคด) นี้ถึงได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากนักบิดในไทยอย่างล้นหลามด้วย สมรรถนะ ความคุ้มค่า และราคา นี้คงจะเป็นคำตอบในตัวมันได้อย่างดี…

 

 

และไปต่อกันเลยกับ…

 

CBR650F THRILL TO THE ROARING

 

Honda CBR650F (สปอร์ต) 2013 เป็นรถมอเตอร์ไซค์ฟลูแฟริ่ง ทรงสปอร์ต พิกัด 650 ซีซี 4 จังหวะ 4 สูบเรียง DOHC 16 วาว์ล 6 สปีด 87 แรงม้า ระบบหัวฉีด PGM-FI ระบายความร้อนด้วยน้ำ เฟรม  A Steel Daimond มิติรถขนาด 2107 x 753 x 1149 มม. ล้อหน้า 6 ก้านแยก อลูมิเนียม ยาง 120/70 พร้อมระบบเบรค ABS ดิสก์เบรคลูกสูบคู่ 320 มม. ล้อหลัง 6 ก้านแยก อลูมิเนียม ยาง 180/55  ลูกสูบเดี่ยวขนาด 240 มม. ABS ความจุถังน้ำมันเชื้อเพลิง 17.3 ลิตร น้ำหนักรวมอยู่ประมาณที่ 215 กก. นี่เป็น รถสปอร์ต 4 สูบเรียง คันแรกที่ผลิตในประเทศไทยของฮอนด้า พื้นฐานทั้งหมดเหมือนกับตัว CB650F (เนคเคด) ต่างกันที่ แฮนด์เป็นแบบจับโช๊คตามสไตร์รถสปอร์ตและแฟริ่งเต็มคัน

จุดเด่นของ Honda CBR650F (สปอร์ต) รุ่นนี้คือ

– เครื่องยนต์แบบ 4 สูบแถวเรียง DOHC หัวฉีด PGM-FI ขนาด 650 ซีซี

 

– ท่อไอเสียดีไซน์ล้ำออกแบบมาให้อยู่ในแนวกลางรถ ให้จุดศูนย์ถ่วงต่ำ เพื่อการทรงตัว และเข้าโค้งที่ดี มาพร้อมสวิงอาร์มแบบอลูมิเนียม

 

– ระบบกุญแจชิพ H.I.S.S. มั่นใจ ป้องกันการโจรกรรม เทคโนโลยีเฉพาะจากฮอนด้า

 

 

– ระบบเบรค ABS หน้า-หลัง มาพร้อมดิสก์เบรคหน้าระบบลูกสูบคู่ ขนาด 320 มม.(หน้า) และลูกสูบเดี่ยวขนาด 240 มม.(หลัง)

 

CBR650F (สปอร์ต) มาพร้อมไฟหน้าเดี่ยวขนาดใหญ่ พร้อมไฟหรี่ ไฟท้ายเป็น LED รูปทรงพอเหมาะกำลังดี เมื่อลองค่อมรถดูก็ต้องประหลายใจเพราะไม่สูงเหมือนที่คิด สูง 170 กว่าๆสามารถยืนเต็มเท้าได้สบาย ในส่วนของ Cockpit นั้น ดูชัดเจนและใหญ่เต็มแผงหน้ารถดี เรือนไมล์และระบบเหมือนกับตัว CB650F (เนคเคด) ทุกอย่าง ประกับซ้าย-ขวา ก็เช่นเดียวกัน ออฟชั่นที่แถมมายังอยู่ครบ และสามารถใช้งานได้ง่ายเช่นกัน

 

     เริ่มทำการทดสอบขับขี่กันทันที รูปแบบการทดสอบเหมือนกันตัวเนคเคด และด้วยศูนย์ขับขี่ที่นี้ มีรูปแบบสนามที่หลากหลาย เหมาะสำหรับการทดสอบรถ ทั้งทางตรง ทางโค้ง ทางขรุขระ และทางคดเคี้ยว เราเริ่มต้นจากการวิ่งช้าๆ จนเร็วขึ้นเรื่อยๆ สลับกับการทดสอบเบรคไปมา ทั้งเบรคแบบกระทันหัน การใช้เอนจิ้นเบรค และการวิ่งแบบสลาลม ผ่อน เบรค เร่ง จนทั่วสนามหลายๆรอบ ได้ข้อสรุปมาดังนี้สำหรับ  Honda CBR650F (สปอร์ต)

 

 

ด้วยท่านั่งทำให้เรารู้สึกตื่นเต้น กับแรงบิดเมื่อรอบเครื่องยนต์มาถึง ตัวคนขี่ไม่ได้กระทบกับแรงลมตรงๆ ทำให้รู้สึกได้ว่ารถพุ่งออกไปเร็วมาก และด้วยเสียงเครื่องยนต์ 4 แถวเรียงที่หวานเหลือเกิน เกียร์ 1 เราก็กวาดความเร็วไปเกือบ 100 และสุดสนามซะแล้ว  ด้วยแฮนด์แบบจับโช๊ค และจุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำให้ความรู้สึกมั่นคงมากๆในการเข้าโค้ง เอนจิ้นเบรคทำได้อย่างนิ่มนวล การเปิดคันเร่งเพื่อออกตัว ก็นิ่มนวลสุด รถเหมือนจะรอรอบ แต่แปปเดียวเท่านั้นความสนุกจะเข้ามาทันที เป็นรถสปอร์ต 4 สูบ ที่ขี่ง่ายจริงๆ เหมาะกับทั้งมือใหม่ และมือเก๋าก็ไหว อัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเท่ากับตัวเนคเคด คือเคลมอยู่ที่ประมาณ 20 กิโล/ลิตร

ราคา CBR650F เปิดขายในไทยอยู่ที่ 300,000 บาท ทุกสีราคาเดียว เป็นราคาที่เปิดออกมาได้ถูกใจมวลชลไม่แพ้ตัวเนคเคด สีที่ขายในไทยจะมี 2 สี คือ แดง Millennium Red และดำด้าน (Mat Gunpowder Black Metallic) แทบไม่ต้องคิดมากกันเลยสำหรับผู้ที่สนใจรถสปอร์ต 4 สูบแถวเรียงอยู่แล้วเช่นนี้

ส่วนข้อเสียของ CBR650F (สปอร์ต) นั้นจะเป็นเรื่องของความร้อนที่ต้นขา ที่มากเช่นเดียวกับตัวเนคเคดถ้าไม่ใส่ขายาวนะ และ น้ำหนักที่มากไปนิดสำหรับพิกัดนี้

/////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////

HEAD TO HEAD

รูปลักษณ์ ภายนอก
– โมเดลรุ่น CB650F (เนคเคด) และ CBR650F (สปอร์ต) เป็น รหัสรถแนว Sport ลูกครึ่ง Touring สำหรับคนที่ชอบรถสไตร์สปอร์ต แต่ก็ยังคงรักสบายอยู่ เดินทางไกลก็ได้ ใช้งานในเมืองก็ดี ในโมเดลล่าสุดปี 2013 ยังคงดีไซน์หลักๆตามรุ่นโมเดล 2011 ไว้ได้ครบ ภายนอกดูแข็งแรง บึกบึน (สปอร์ต) และดูปราดปรียวดีสำหรับตัว CB650F (เนคเคด) ไฟหน้าใหญ่ส่องว่าง มาพร้อมไฟหรี่ในดวงเดียวกัน ไฟหลังเป็น LED ส่องสว่างชัดเจน  จุดเด่นเลยคือการเรียงท่อเรียง ที่สวยสะดุดตา และการวางท่อในตำแหน่งกลางตามยุคสมัยนิยม สวิงอาร์มอลูนิเนียม เรือนไมล์ Full Digital LCD กุญแจนิรภัย H.I.S.S.

สมรรถนะ
– ทั้ง 2 รุ่นใช้เครื่องเดียวกัน เครื่องยนต์ 4 จังหวะ 4 สูบแถวเรียง DOHC 16 วาล์ว 6 สปีด หัวฉีด PGM-FI ระบายความร้อนด้วยน้ำ 87 แรงม้า อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงประมาณ 20 กิโล/ลิตร จากการทดสอบทั้ง 2 รุ่นทำออกมาได้ดี ออกตัวนิ่มนวล แรงบิดมาช้ากว่าตระกูล 500 ที่เป็น 2 สูบนิดเดียว แต่พอมาแล้วความสนุกเกิดทันที และยังบิดส่งต่อได้เรื่อยๆ เรียกได้ว่าเหลือๆสำหรับการใช้งานปกติ

ระบบกันสะเทือนหน้าหลัง
– ช่วงหน้าเทเลสโกปิค แกน 41 มม. มาพร้อมล้อหน้า อลูมิเนียม 6 ก้านแยก ฐานล้อ 3.5 นิ้ว พร้อมยางขนาด 120/70 ซัพแรงกระแทกได้ดี ช่วงหลังเป็นโช้คเดี่ยว โมโน ปรับระดับได้มาพร้อมสวิงอาร์มอลูมิเนียม พร้อมล้อหลังอลูมิเนียม 6 ก้านแยก ฐานล้อ 5.5 นิ้ว พร้อมยางขนาด 180/55 ช่วยให้เข้าโค้งได้อย่างดี มั่นใจ ทำได้ดีทั้ง 2 รุ่น

ระบบเบรค
– CB650F (เนคเคด) และ CBR650F (สปอร์ต) มาพร้อมดิสก์เบรคลูกสูบคู่ 320 มม. และลูกสูบเดี่ยวขนาด 240 มม. ระบบ ABS ทั้งหน้าหลัง ABS มีประโยชน์เป็นอย่างมากในการใช้งานบนท้องถนนทั่วไป ป้องกันล้อล็อคเกิดจากการเบรคกระทันหัน และการเบรคขนพื้นถนนที่มีกรวดหรือทราย และเอนจิ้น เบรค ก็ทำออกมาได้อย่างนิ่มนวล

/////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////

นี่เป็นหลายๆเหตุผลที่ทำให้ 650 Serie นี้เปิดตัวได้ร้อนแรงจริงๆ เป็นรถจากฮอนด้าที่ดีคุ้มค่าสมราคา ขับขี่ง่าย กับคุณภาพที่เราสัมผัสได้ ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในวงการรถมอเตอร์ไซต์บ้านเราจริงๆ

หวังว่าบทความนี้จะมีประโยชน์สำหรับผู้ที่สนใจรถรุ่นนี้ สิ่งสำคัญในการเลือกรถสักคันนึงคือ คุณต้องไปลองขับขี่ด้วยตัวเอง เลือกสไตร์ที่เป็นตัวเรา แล้วเราจะสนุกไปรถไปตลอด และที่สำคัญอย่าลืมชุดอุปกรณ์ป้องกัน สวมหมวกทุกครั้งที่ขับขี่นะครับ

CBRsCLUB
www.cbrsclub.com

ขอขอบคุณ

Related Posts

• 

  :: รีวิว :: PTT Challenger Super Bike Racing fully synthetic 10w-60

• 

  :: รีวิว :: PTT Challenger Super Bike Racing fully synthetic 10w-60

• 

  ฮอนด้า ประกาศ “WHAT STOPS YOU? มุ่งไป อย่าให้อะไรมาหยุด” เปิดตัว 2 รุ่นใหม่ Super...