Golf410spk
|
|
« ตอบ #20 เมื่อ: 20, กันยายน 2012, 08:30:44 AM » |
|
จูนเองได้เฉพาะการปรับ A:F ratio ที่เปลี่ยนมาแล้วมันขึ้นช้าก็เพราะมันสู้ของเดิมไม่ได้ไง slip-onเปลี่ยนแล้วแรงมันไม่มี อัตราเร่งสู้ของเดิมไม่ได้ แต่ความเร็วปลายเพิ่มขึ้น งงไหม
การจอดรถเกียร์ว่างเบิ้ลเครื่องจนรอบตัด รถไม่พังก็ถือว่าบุญมากแล้วครับ คนที่เข้าใจการทำงานของเครื่องยนต์ไม่มีใครทำกันครับ รถไม่ได้ใส่โหลดลงไป เบิ้ลขนาดนั้นเหอะๆ การจูนรถก็ไม่เห็นมีใครเขาจะเบิ้ลจนสุดสักคน มีแต่บิดปล่อยๆ เพื่อดูอัตราเร่งเท่านั้น หากต้องการจนรอบตัดจริงๆก็ออกไปวิ่งเกียร์1ก็รู้เรื่องแล้วรอบมันก็ตัดเหมือนกัน โหลดหนักด้วยเครื่องไม่มีพัง ผลเสียมีมากกว่าผลดี ไม่รู้ไปเอากันมาจากไหนน่ะวิธีนี้ O2 มันส่งข้อมูลเข้าหัวฉีดตลอดเวลาแหละ ใช่ว่าทำทีเดียวแล้วใช้ได้ยันลูกบวชซะเมื่อไหร่ วิ่งตอนเช้าO2มันก็ส่งข้อมูลเข้าแบบนึง สายๆมันก็ส่งเข้าอีกแบบนึง เหอะๆๆๆๆ
ขอบคุณ คุณ"Herulaya" มากนะครับ ที่เข้ามาชี้แจงและแนะนำในเรื่องนี้ >yes การปฏิบัติดังกล่าว ผมก็ไม่ทราบแน่ชัดว่ากำเนิดมาจากที่ไหน รู้แต่เพียงว่าปฏิบัติตามๆกันมา ผมไม่ได้เชี่ยวชาญเรื่องเครื่องยนต์มากนัก ยังต้องศึกษาหาความรู้อีกมาก หากมันเป็นสิ่งที่ปฏิบัติผิดๆตามกันมา ผมก็พร้อมที่จะนำไปบอกเล่าข้อมูลที่ถูกต้อง เพื่อที่จะทำให้ผู้ที่เข้าใจผิดและปฏิบัติผิดๆได้เข้าใจถึงข้อเท็จจริงนั้น...นับว่า เป็นสิ่งที่ดีมากเลยครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
mans
บุคคลทั่วไป
|
|
« ตอบ #21 เมื่อ: 20, กันยายน 2012, 03:45:32 PM » |
|
การรีเซ็ทกล่อง ก็ไม่อยากนี้ครับ ทำเองก็ได้ ขับไปแบบปกติเดี๋ยวกกล่องก็รู้งานเองถ้าไม่รีบเอาแบบปุ๊บปั๊บ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
TheGame
Certified Trader
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 545
กลิ้งๆๆๆ
|
|
« ตอบ #22 เมื่อ: 20, กันยายน 2012, 05:15:01 PM » |
|
ตามนั้นครับ ก้านขาดตัวใครตัวมัน ช่างเครื่องที่ดีควรรู้ครับถ้าไม่มีโหลดควรเบิลแบบไหน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
altis6098
Certified Trader
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 380
|
|
« ตอบ #23 เมื่อ: 20, กันยายน 2012, 05:17:39 PM » |
|
l11 .. เข้ามาเก็บข้อมูล
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
sexserry
Editorial Staff MotoCross/MotoBigbike Magazine
Certified Trader
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 174
สวัสดีครับผม "แบงค์ร่มเกล้า" ^^
|
|
« ตอบ #24 เมื่อ: 20, กันยายน 2012, 05:26:27 PM » |
|
เปลี่ยน เฉพาะปลาย ไม่วิ่งเ่ท่าไหร่หรอกครับ // แต่ผม เปลี่ยนทั้งเส้นยังไม่วิ่งเลยฮ่าๆๆๆๆ ผมเน้นสวยงามไม่เน้นแรง ไม่เน้น ดัง > > > > งั้นก้อเเสดงว่ามันก้อไม่ได้ช่วยอะไรขึ้นมามากมาย เอาสวยเฉยๆ งั้นเสร๊จเเล้วก้อไปไล่สเตอร์เอาดีก่า >A@$%^^
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
sexserry
Editorial Staff MotoCross/MotoBigbike Magazine
Certified Trader
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 174
สวัสดีครับผม "แบงค์ร่มเกล้า" ^^
|
|
« ตอบ #25 เมื่อ: 20, กันยายน 2012, 05:27:20 PM » |
|
จูนเองได้เฉพาะการปรับ A:F ratio ที่เปลี่ยนมาแล้วมันขึ้นช้าก็เพราะมันสู้ของเดิมไม่ได้ไง slip-onเปลี่ยนแล้วแรงมันไม่มี อัตราเร่งสู้ของเดิมไม่ได้ แต่ความเร็วปลายเพิ่มขึ้น งงไหม
การจอดรถเกียร์ว่างเบิ้ลเครื่องจนรอบตัด รถไม่พังก็ถือว่าบุญมากแล้วครับ คนที่เข้าใจการทำงานของเครื่องยนต์ไม่มีใครทำกันครับ รถไม่ได้ใส่โหลดลงไป เบิ้ลขนาดนั้นเหอะๆ การจูนรถก็ไม่เห็นมีใครเขาจะเบิ้ลจนสุดสักคน มีแต่บิดปล่อยๆ เพื่อดูอัตราเร่งเท่านั้น หากต้องการจนรอบตัดจริงๆก็ออกไปวิ่งเกียร์1ก็รู้เรื่องแล้วรอบมันก็ตัดเหมือนกัน โหลดหนักด้วยเครื่องไม่มีพัง ผลเสียมีมากกว่าผลดี ไม่รู้ไปเอากันมาจากไหนน่ะวิธีนี้ O2 มันส่งข้อมูลเข้าหัวฉีดตลอดเวลาแหละ ใช่ว่าทำทีเดียวแล้วใช้ได้ยันลูกบวชซะเมื่อไหร่ วิ่งตอนเช้าO2มันก็ส่งข้อมูลเข้าแบบนึง สายๆมันก็ส่งเข้าอีกแบบนึง เหอะๆๆๆๆ
ขอบคุณ คุณ"Herulaya" มากนะครับ ที่เข้ามาชี้แจงและแนะนำในเรื่องนี้ >yes การปฏิบัติดังกล่าว ผมก็ไม่ทราบแน่ชัดว่ากำเนิดมาจากที่ไหน รู้แต่เพียงว่าปฏิบัติตามๆกันมา ผมไม่ได้เชี่ยวชาญเรื่องเครื่องยนต์มากนัก ยังต้องศึกษาหาความรู้อีกมาก หากมันเป็นสิ่งที่ปฏิบัติผิดๆตามกันมา ผมก็พร้อมที่จะนำไปบอกเล่าข้อมูลที่ถูกต้อง เพื่อที่จะทำให้ผู้ที่เข้าใจผิดและปฏิบัติผิดๆได้เข้าใจถึงข้อเท็จจริงนั้น...นับว่า เป็นสิ่งที่ดีมากเลยครับ นี้สิรุ่นใหญ่ตัวจริง อิอิ >konan
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
jackleadguitar
|
|
« ตอบ #26 เมื่อ: 20, กันยายน 2012, 05:27:54 PM » |
|
มาตอบเฉพาะเรื่องลากรอบเครื่องแบบไม่มีโหลดนะครับ ระวังก้านขาดทะลุเสื้อนะครับ :-\
งานงอกเลยงั้น 55 มันไม่ใช่แค่นั้นนะ นี่มัน 4 จังหวะนะ มันจะยาวนะ แต่ถ้า 2 จังหวะนะทำได้ เพราะอย่างมากก็แค่แหวนหัก โชคร้ายสุดก็แค่เศษแหวนไปขูดกับผิวกระบอกสูบต้องคว้านใหม่หรือยาวไปจนตีปลอก เรื่องก้านทะลุนี่ยากมาก ถ้าออโต้ลู๊ปอัดเข้าไปเยอะ ๆ ก้านขาดจะมีเฉพาะรถแต่งเท่านั้น และก็จะบอกอีกอย่างครับรถ 4 จังหวะนี่ก็เหมือนเครื่องรถยนต์นะครับ อยู่ ๆ เพิ่งจะติดเครื่องแล้วมาเร่งไปรอบสูง ๆ นี่สึกเร็วมากนะครับ อย่าทำ น้ำมันยังไม่ได้ไปหล่อเลี้ยงทั่วถึงเลยจะพังเอา ซึ่งแตกต่างจากเครื่อง 2 จังหวะที่ทำได้เพราะน้ำมันออโต้ลู้ปจะถูกส่งไปหล่อเลี้ยงทันทีพร้อมกับน้ำมันเชื้อเพลิง แต่ยังไงการเร่งเครื่องแบบสุด ๆแบบเกียร์ว่างก็ไม่ทำกันนะในรถ 2 จังหวะ อย่างที่ท่านอื่น ๆ บอกอ่ะอย่างมากก็แค่เร่งสุดแล้วก็คายคันเร่ง ตอนผมจูนคาร์บูรถ2 จังหวะก็แบบนี้ เร่งสุดค้างไว้เต็มที่ไม่เกิน 4 วิ ครับ ยังไงก็ถนอมรถกันหน่อยนะครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
sexserry
Editorial Staff MotoCross/MotoBigbike Magazine
Certified Trader
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 174
สวัสดีครับผม "แบงค์ร่มเกล้า" ^^
|
|
« ตอบ #27 เมื่อ: 20, กันยายน 2012, 07:12:06 PM » |
|
มาตอบเฉพาะเรื่องลากรอบเครื่องแบบไม่มีโหลดนะครับ ระวังก้านขาดทะลุเสื้อนะครับ :-\
งานงอกเลยงั้น 55 มันไม่ใช่แค่นั้นนะ นี่มัน 4 จังหวะนะ มันจะยาวนะ แต่ถ้า 2 จังหวะนะทำได้ เพราะอย่างมากก็แค่แหวนหัก โชคร้ายสุดก็แค่เศษแหวนไปขูดกับผิวกระบอกสูบต้องคว้านใหม่หรือยาวไปจนตีปลอก เรื่องก้านทะลุนี่ยากมาก ถ้าออโต้ลู๊ปอัดเข้าไปเยอะ ๆ ก้านขาดจะมีเฉพาะรถแต่งเท่านั้น และก็จะบอกอีกอย่างครับรถ 4 จังหวะนี่ก็เหมือนเครื่องรถยนต์นะครับ อยู่ ๆ เพิ่งจะติดเครื่องแล้วมาเร่งไปรอบสูง ๆ นี่สึกเร็วมากนะครับ อย่าทำ น้ำมันยังไม่ได้ไปหล่อเลี้ยงทั่วถึงเลยจะพังเอา ซึ่งแตกต่างจากเครื่อง 2 จังหวะที่ทำได้เพราะน้ำมันออโต้ลู้ปจะถูกส่งไปหล่อเลี้ยงทันทีพร้อมกับน้ำมันเชื้อเพลิง แต่ยังไงการเร่งเครื่องแบบสุด ๆแบบเกียร์ว่างก็ไม่ทำกันนะในรถ 2 จังหวะ อย่างที่ท่านอื่น ๆ บอกอ่ะอย่างมากก็แค่เร่งสุดแล้วก็คายคันเร่ง ตอนผมจูนคาร์บูรถ2 จังหวะก็แบบนี้ เร่งสุดค้างไว้เต็มที่ไม่เกิน 4 วิ ครับ ยังไงก็ถนอมรถกันหน่อยนะครับ แจ่มครับ >konan
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ChefBlack
|
|
« ตอบ #28 เมื่อ: 20, กันยายน 2012, 09:37:10 PM » |
|
อย่าไปคาดหวังกับเครื่อง 150 CC มากนักเลยกั๊บ >%REDD
ถูกต้องแล้วคร้าบ150cc อย่าหวังแรง มากเน้นสวยงาม กับใช้งานในชิวิตประจำวัน ถ้าชอบแรงจริงๆ ราคาค่าตัวที่เราจ่ายน้อง c ไป เอาไปถอย bb มือ2ได้เลย นะ (แต่ต้องซ่อมรถเป็นนะ) อิอิ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Moo
|
|
« ตอบ #29 เมื่อ: 20, กันยายน 2012, 09:47:20 PM » |
|
เข้ามาเก็บความรู้ครับ >yes >yes
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
NOKLEK
|
|
« ตอบ #30 เมื่อ: 20, กันยายน 2012, 10:11:12 PM » |
|
อ้างอิงจากในคลิ๊ปนะครับ เรื่องเบิลเครื่องจะถูกรึผิดก็แล้วแต่ แต่ในคลิ๊ปเค้าก็ได้มีการวอร์มเครื่องก่อนที่จะถ่ายนะครับ (ในคลิ๊ปยังพูดไว้เลยครับ)
ว่าด้วยเรื่อง O2 Sensor นั่นจะใช้การวัดค่าความต่างของอ๊อกซิเจนภายนอกท่อเทียบกับภายในท่อ ก็จะได้ค่าปริมาณของอ๊อกซิเจนที่เหลือรอดจากห้องเผาไหม้ โดยปกติ ถ้าเผาไหม้สมบูรณ์ ค่าอ๊อกซิเจนที่อยู่ในไอเสียก็จะประมาณ 1-2% แต่ถ้ามีมากกว่านั้น แสดงว่าน้ำมันบางไป กล่องก็จะสั่งจ่ายอัตราส่วนน้ำมันให้หนาขึ้น ซึ่งความเร็วในการเปลี่ยนแปลงนั้นจะอยู่ที่ประมาณ 7 ครั้งต่อวินาที (ไวมาก)
ซึ่งถ้ามองแค่นี้นั้น กล่องจะจูนการฉีดน้ำมันอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้วครับ แต่ถ้ากล่องมีการทำสถิติก็คงจะเป็นอีกเรื่องนึงครับ ซึ่งตรงนี้ผมไม่มีข้อมูล แต่เหมือนเคยผ่านตามาคร่าวๆว่า มันมีการเรียงลำดับความสำคัญ เพื่อความรวดเร็วในการตัดสินใจครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ลูกผู้ชาย ถึงจะตายในท่อ ก็ต้องมุดไปตายเอาดาบหน้า
|
|
|
sexserry
Editorial Staff MotoCross/MotoBigbike Magazine
Certified Trader
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 174
สวัสดีครับผม "แบงค์ร่มเกล้า" ^^
|
|
« ตอบ #31 เมื่อ: 21, กันยายน 2012, 12:36:15 AM » |
|
อ้างอิงจากในคลิ๊ปนะครับ เรื่องเบิลเครื่องจะถูกรึผิดก็แล้วแต่ แต่ในคลิ๊ปเค้าก็ได้มีการวอร์มเครื่องก่อนที่จะถ่ายนะครับ (ในคลิ๊ปยังพูดไว้เลยครับ)
ว่าด้วยเรื่อง O2 Sensor นั่นจะใช้การวัดค่าความต่างของอ๊อกซิเจนภายนอกท่อเทียบกับภายในท่อ ก็จะได้ค่าปริมาณของอ๊อกซิเจนที่เหลือรอดจากห้องเผาไหม้ โดยปกติ ถ้าเผาไหม้สมบูรณ์ ค่าอ๊อกซิเจนที่อยู่ในไอเสียก็จะประมาณ 1-2% แต่ถ้ามีมากกว่านั้น แสดงว่าน้ำมันบางไป กล่องก็จะสั่งจ่ายอัตราส่วนน้ำมันให้หนาขึ้น ซึ่งความเร็วในการเปลี่ยนแปลงนั้นจะอยู่ที่ประมาณ 7 ครั้งต่อวินาที (ไวมาก)
ซึ่งถ้ามองแค่นี้นั้น กล่องจะจูนการฉีดน้ำมันอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้วครับ แต่ถ้ากล่องมีการทำสถิติก็คงจะเป็นอีกเรื่องนึงครับ ซึ่งตรงนี้ผมไม่มีข้อมูล แต่เหมือนเคยผ่านตามาคร่าวๆว่า มันมีการเรียงลำดับความสำคัญ เพื่อความรวดเร็วในการตัดสินใจครับ
เจอกูรู อีกท่านนึงเเล้ว ยังคงรอความคิดเห็นจากท่านอื่นด้วยนะครับ >konan >@#%GD
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
jakkit1990
|
|
« ตอบ #32 เมื่อ: 21, กันยายน 2012, 05:09:08 AM » |
|
อ้างอิงจากในคลิ๊ปนะครับ เรื่องเบิลเครื่องจะถูกรึผิดก็แล้วแต่ แต่ในคลิ๊ปเค้าก็ได้มีการวอร์มเครื่องก่อนที่จะถ่ายนะครับ (ในคลิ๊ปยังพูดไว้เลยครับ)
ว่าด้วยเรื่อง O2 Sensor นั่นจะใช้การวัดค่าความต่างของอ๊อกซิเจนภายนอกท่อเทียบกับภายในท่อ ก็จะได้ค่าปริมาณของอ๊อกซิเจนที่เหลือรอดจากห้องเผาไหม้ โดยปกติ ถ้าเผาไหม้สมบูรณ์ ค่าอ๊อกซิเจนที่อยู่ในไอเสียก็จะประมาณ 1-2% แต่ถ้ามีมากกว่านั้น แสดงว่าน้ำมันบางไป กล่องก็จะสั่งจ่ายอัตราส่วนน้ำมันให้หนาขึ้น ซึ่งความเร็วในการเปลี่ยนแปลงนั้นจะอยู่ที่ประมาณ 7 ครั้งต่อวินาที (ไวมาก)
ซึ่งถ้ามองแค่นี้นั้น กล่องจะจูนการฉีดน้ำมันอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้วครับ แต่ถ้ากล่องมีการทำสถิติก็คงจะเป็นอีกเรื่องนึงครับ ซึ่งตรงนี้ผมไม่มีข้อมูล แต่เหมือนเคยผ่านตามาคร่าวๆว่า มันมีการเรียงลำดับความสำคัญ เพื่อความรวดเร็วในการตัดสินใจครับ
การทำงานของกล่อง ecu ทำงานไม่เชิงเก็บค่าสถิติครับ แต่ใช้หลักการ Coding โดยแยกคำสั่งชุดการทำงานไว้ครับ เหมือนกับ if,else ครับ โดยในกล่องจะมีชุดคำสั่งไว้ว่าเมื่อค่าระดับออกซิเจนที่ถูกเผาไหม้ไปนั้นอยู่ในเกณ์ใด จากนั้นเมื่อได้ค่าไปแล้วก็จะไปเทียบค่าของตัวกล่องไว้ว่าอยู่ในลักษณะใด เมื่อเทียบได้แล้วก็จะนำคำสั่งนั้น ไปใช้งานครับ ซึ่งอาจจะทำได้หลายคำสั่งในเวลาเดียวกัน โดยจะเลือกว่าคำสั่งใดมีค่า Priority Queue สูงก็จะทำก่อน ซึ่งจะสั่งเกตุได้ว่า มีบางรุ่นที่ดับกลางอากาศ ในที่นี้เจาะเฉพาะตัวกล่องเลยนะ อาจเป็นเพราะว่า เกิดการ interrupt จน Process ไม่สามารถที่จะวิเคราะห์ค่า Priority Queue ได้ เลยทำให้ตัวกล่องเกิดอาการ Down ลง ครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Kym088
|
|
« ตอบ #33 เมื่อ: 21, กันยายน 2012, 05:56:22 AM » |
|
ตอนแรกแค่แวะมาดู ไหงกลายเป็นได้ความรู้เพิ่มเติม ซะงั้น มีประโยชน์มากครับ ชอบ ๆ l13
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
CHAN007
|
|
« ตอบ #34 เมื่อ: 21, กันยายน 2012, 07:21:48 AM » |
|
ชอบๆ..ครับกระทูนี้เลยเกิดเป็นความรู้ไปเลย !goodjob !goodjob
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Zephiroth
|
|
« ตอบ #35 เมื่อ: 21, กันยายน 2012, 07:25:59 AM » |
|
งั้นแปลว่าการเปิ้ลเครื่อง หรือขับไปซักระยะ ให้กล่องมันปรับ ก็ไม่เป็นความจริง ผมเข้าใจถูกมั๊ยครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
trllang
|
|
« ตอบ #36 เมื่อ: 21, กันยายน 2012, 04:14:19 PM » |
|
ขับขี่เเบบปรกติใช้รอบสูงบ้างต่ำบ้างมันก็จูนให้เเล้วครับ ขับไปเรื่อยๆ
ไม่งั้นเค้าไม่เรียกระบบหัวฉีดหรอก อิอิ
เเต่ถ้าใครขับตัวคาร์บิวเเล้วจะรอให้มันปรับเพิ่มน้ำมันตัวเองนี่ก็ไม่ใช่ละ 555 +
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
เดิมๆเติม e85
|
|
|
setupza
|
|
« ตอบ #37 เมื่อ: 21, กันยายน 2012, 05:30:42 PM » |
|
จูนเองได้เฉพาะการปรับ A:F ratio ที่เปลี่ยนมาแล้วมันขึ้นช้าก็เพราะมันสู้ของเดิมไม่ได้ไง slip-onเปลี่ยนแล้วแรงมันไม่มี อัตราเร่งสู้ของเดิมไม่ได้ แต่ความเร็วปลายเพิ่มขึ้น งงไหม
การจอดรถเกียร์ว่างเบิ้ลเครื่องจนรอบตัด รถไม่พังก็ถือว่าบุญมากแล้วครับ คนที่เข้าใจการทำงานของเครื่องยนต์ไม่มีใครทำกันครับ รถไม่ได้ใส่โหลดลงไป เบิ้ลขนาดนั้นเหอะๆ การจูนรถก็ไม่เห็นมีใครเขาจะเบิ้ลจนสุดสักคน มีแต่บิดปล่อยๆ เพื่อดูอัตราเร่งเท่านั้น หากต้องการจนรอบตัดจริงๆก็ออกไปวิ่งเกียร์1ก็รู้เรื่องแล้วรอบมันก็ตัดเหมือนกัน โหลดหนักด้วยเครื่องไม่มีพัง ผลเสียมีมากกว่าผลดี ไม่รู้ไปเอากันมาจากไหนน่ะวิธีนี้ O2 มันส่งข้อมูลเข้าหัวฉีดตลอดเวลาแหละ ใช่ว่าทำทีเดียวแล้วใช้ได้ยันลูกบวชซะเมื่อไหร่ วิ่งตอนเช้าO2มันก็ส่งข้อมูลเข้าแบบนึง สายๆมันก็ส่งเข้าอีกแบบนึง เหอะๆๆๆๆ
ขอบคุณมากๆๆครับ พี่ สำหรับคำแนะนำ ตอนผมเปลี่ยน มา ก็ไม่กล้าเบิ้ลเหมือนกันครับ กลัวๆ @#%$(
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
sexserry
Editorial Staff MotoCross/MotoBigbike Magazine
Certified Trader
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 174
สวัสดีครับผม "แบงค์ร่มเกล้า" ^^
|
|
« ตอบ #38 เมื่อ: 21, กันยายน 2012, 08:36:27 PM » |
|
อ้างอิงจากในคลิ๊ปนะครับ เรื่องเบิลเครื่องจะถูกรึผิดก็แล้วแต่ แต่ในคลิ๊ปเค้าก็ได้มีการวอร์มเครื่องก่อนที่จะถ่ายนะครับ (ในคลิ๊ปยังพูดไว้เลยครับ)
ว่าด้วยเรื่อง O2 Sensor นั่นจะใช้การวัดค่าความต่างของอ๊อกซิเจนภายนอกท่อเทียบกับภายในท่อ ก็จะได้ค่าปริมาณของอ๊อกซิเจนที่เหลือรอดจากห้องเผาไหม้ โดยปกติ ถ้าเผาไหม้สมบูรณ์ ค่าอ๊อกซิเจนที่อยู่ในไอเสียก็จะประมาณ 1-2% แต่ถ้ามีมากกว่านั้น แสดงว่าน้ำมันบางไป กล่องก็จะสั่งจ่ายอัตราส่วนน้ำมันให้หนาขึ้น ซึ่งความเร็วในการเปลี่ยนแปลงนั้นจะอยู่ที่ประมาณ 7 ครั้งต่อวินาที (ไวมาก)
ซึ่งถ้ามองแค่นี้นั้น กล่องจะจูนการฉีดน้ำมันอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้วครับ แต่ถ้ากล่องมีการทำสถิติก็คงจะเป็นอีกเรื่องนึงครับ ซึ่งตรงนี้ผมไม่มีข้อมูล แต่เหมือนเคยผ่านตามาคร่าวๆว่า มันมีการเรียงลำดับความสำคัญ เพื่อความรวดเร็วในการตัดสินใจครับ
การทำงานของกล่อง ecu ทำงานไม่เชิงเก็บค่าสถิติครับ แต่ใช้หลักการ Coding โดยแยกคำสั่งชุดการทำงานไว้ครับ เหมือนกับ if,else ครับ โดยในกล่องจะมีชุดคำสั่งไว้ว่าเมื่อค่าระดับออกซิเจนที่ถูกเผาไหม้ไปนั้นอยู่ในเกณ์ใด จากนั้นเมื่อได้ค่าไปแล้วก็จะไปเทียบค่าของตัวกล่องไว้ว่าอยู่ในลักษณะใด เมื่อเทียบได้แล้วก็จะนำคำสั่งนั้น ไปใช้งานครับ ซึ่งอาจจะทำได้หลายคำสั่งในเวลาเดียวกัน โดยจะเลือกว่าคำสั่งใดมีค่า Priority Queue สูงก็จะทำก่อน ซึ่งจะสั่งเกตุได้ว่า มีบางรุ่นที่ดับกลางอากาศ ในที่นี้เจาะเฉพาะตัวกล่องเลยนะ อาจเป็นเพราะว่า เกิดการ interrupt จน Process ไม่สามารถที่จะวิเคราะห์ค่า Priority Queue ได้ เลยทำให้ตัวกล่องเกิดอาการ Down ลง ครับ โหพี่คนนี้เทพมาเอง จัดไปครับต่อเนื่องๆ >A@$%^^ >A@$%^^
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
clashlove
|
|
« ตอบ #39 เมื่อ: 21, กันยายน 2012, 10:32:51 PM » |
|
!goodjobความรู้ทั้งนั้น
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|