##แนวคิดความเป็นมา##
ในทุกวันนี้สังคมค่อนข้างดูอ่อนแอขาดไปซึ่งความเข้มแข็ง ด้วยสถานภาพชีวิตที่แตกต่างกันไป ก็ต่างทำงานขวนขวายหาความสุขมาใส่ตัว เพื่อการดำรงดำเนินไปของชีวิต บ้างก็ต่างขวนขวาย ไขว่ขว้า มุ่งมั่นทำหน้าที่การงานดิ้นรนจนมองข้าม ลืมความสุขที่แท้จริงไป ณ ที่นี้หากความสุขแท้จริงนั้นคือการให้
วันนี้ผมมีความคิดหนึ่ง หนึ่งโครงการดีๆ ที่ทุกๆคน ทุกกลุ่มองค์กร สามารถทำร่วมกันได้และนั่นคือการทำดี การแบ่งปันสิ่งที่ดีคืนกลับสู่สังคม ผมเชื่อว่าทุกคนมีดีและอย่างน้อยก็ทำดีอยู่ทุกวันอาจจะเป็นการทำหน้าที่การงาน อยู่ในกฎระเบียบอันดีงาม แต่มากกว่านั้น หากทุกๆท่านมองกลับไปต่างคนก็ต่างทำ แต่หากวันนี้ เราจะทำดีให้มากกว่าวิถีชีวิตประจำวัน แล้วเริ่มแบ่งปันความดี มอบรอยยิ้มคืนสู่สังคม มอบให้กับทุกๆคนที่อยู่รอบตัว อาจเป็นเพียงหนึ่งยิ้มเล็กๆ หากแต่รวมกันหลายๆรอยยิ้มจากหลากหลายผู้คน รอยยิ้มที่สวยงามที่งดงามที่ยิ้มออกมาจากใจ จากการที่เป็นผู้รับแล้วสุขใจ จากการเป็นผู้ให้ที่มอบให้ด้วยใจ หลากหลายรอยยิ้มเหล่านั้นที่เกิดจากการทำดีๆร่วมกัน ก็ส่งผลพาสังคมได้สุขใจ
เริ่มด้วยการให้ จากการทำดี ที่ง่ายๆ เสียสละเวลา ภาระ หน้าที่ เปลี่ยนมุมมองการพักผ่อนส่วนตัว มาร่วมกันพักผ่อนจิตใจ มอบความสุขใจให้แก่กัน ทำได้เท่าที่มี น้อยนิดไม่ใช่สิ่งสำคัญ เริ่มหันหน้าเข้าหากันแบ่งปันน้ำใจไมตรี สร้างรอยยิ้มอันสุขใจ แบ่งปันความสุขสู่สังคมรอบๆข้าง ซึ่งผมขอเสนอแนวคิด โครงการทำดี “อวดดี...เพื่อยิ้มพ่อ” เป็นกิจกรรมที่ผมอยากเชิญชวนชาวไทยทุกๆคน มาร่วมทำด้วยกัน จากการเริ่มสร้างและทำสิ่งดีๆ มอบรอยยิ้มสู่สังคม คืนกลับตอบแทนพ่อหลวง
หมื่นพันร้อยการกระทำ หมื่นล้านพันความสุขใจที่อยากให้มีให้แก่กัน เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ง่ายๆ เพียงเรามองข้ามคำว่า “ทำการทำดีนั้นยาก” มันอาจดูเป็นสิ่งที่เขินอาย มาร่วมเปิดมุมมองแง่คิดใหม่ ออกมารวมตัวกัน มองข้ามคำจำกัดความ หลายร้อยเหตุผลชื่นชม หลายร้อยพันคำตำหนิติชม แล้วเริ่มแบ่งปันความสุขใจให้แก่กัน สานสัมพันธ์ความอบอุ่นสู่สังคม
เพียงแค่เริ่มทำ ด้วยการทำดี ที่เป็นง่ายๆใครๆก็ทำได้ ไม่ต้องมากมาย ขอเพียงอย่างน้อยทำด้วยความจริงใจ ไม่ต้องใช้สิ่งของมากมายหรือขวนขวายเพิ่มเติมสิ่งอื่นใด ไม่จำเป็นต้องมีภาระค่าใช้จ่ายอื่นใด มากมายมาให้หนักใจ แล้วสิ่งใดที่เราจะทำได้ ไม่มีขีดจำกัดความอื่นใดในการทำดี หากเพียงสิ่งที่จะทำเป็นสิ่งที่ดีงามก็ทำไป ไม่เดือดร้อนรบกวนใคร แค่นั้นก็เกินพอ
ธรรมดาเกินไปที่จะทำดีอย่างที่ได้เคยทำ ไม่จำเป็นที่จะทำดีให้ใครเห็น ไม่เห็นจำเป็นที่จะต้องให้ใครได้รับรู้ ปรับความคิดเปิดโลกมุมมอง ร่วมกันสะท้อนคืนกลับสู่สังคม ให้โลกภายนอกได้รับรู้ ให้รู้ว่าคนจะทำดียังมีอยู่ เปิดความดีตีแพร่ผ่านสังคม เพราะครั้งนี้เราจะมาอวดตีให้โลกรู้ว่าความดี...เป็นสิ่งไม่ตาย
ใครที่ว่าทุกวันนี้คนดีไม่มีที่อยู่ เราจะร่วมกันบอกผ่านกิจกรรมครั้งนี้ ว่าเราก็มีดี และยังมีชีวิตอยู่ ใครกันที่ว่าทำดีเอาหน้า ใครเหล่านั้น กล้าที่จะทำความดีอย่างเราหรือเปล่า หากคุณกล้าที่จะเสียสละเวลาหน้าที่การอันอันมีค่า หากคุณหน้าด้าน กล้าพอที่จะทำดีอย่างไม่เขินอาย มาเถอะครับ ร่วมกันทำดี
ผมขอเรียนเชิญทุกท่านมา อวดดี ร่วมกันสร้างสรรค์ สิ่งดีๆเล็กๆ ให้เติบใหญ่ มาร่วมก้าวไปด้วยกันกับเรา กับกิจกรรมครั้งนี้ “อวดดี...เพื่อยิ้มพ่อ”
จะเป็นอย่างไรหากหนึ่งแนวความคิด หนึ่งกลุ่มชุมชนริเริ่มที่จะทำ ได้รับการสนับสนุน ร่วมมือร่วมใจจากคนไทยมาทำดีด้วยกัน สังคมจะน่าอยู่ ดูสุขใจมากแค่ไหน เรียนรู้ที่จะให้ ทำไปอย่างที่จะมอบ ทำในสิ่งที่คิดอยากจะทำ อย่าไปคิดว่าจะมีใครเคยทำมาก่อนหรือไม่ ไม่สำคัญว่าจะเป็นภาระหน้าที่ของใคร เรื่องของการทำดีอยู่ที่ใจ หากเราช่วยกันการทำดีก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะส่งผ่านรอยยิ้ม จากหนึ่งคนผู้ได้รับ ส่งผ่านต่อไปยังชุมชน ช่วยกันส่งผ่านต่อไปยังสังคม กลายเป็นยิ้มสยามที่ยิ่งใหญ่ ที่ช่างน่าอบอุ่นดูสุขใจ มอบรอยยิ้มดีๆ จากสิ่งดีๆที่ทำ มอบผ่านใครต่อใครด้วยใจ ร่วมกันทำดีเล็กๆเพื่อยิ้มที่กว้างกว่า จะดีมากแค่ไหนหากทุกคนในประเทศไทยมอบน้ำใจให้แก่กัน จะเป็นอย่างไรหากทุกกลุ่มชุมชน มีใจสามัคคีทำดีร่วมกัน จะดีแค่ไหนหากต่างคนต่างความคิด ที่เกิดความแตกแยก จับมือร่วมกัน ทุกสังคมทุกชนชั้นมอบความสามัคคี
ทำสิ่งดีๆแบ่งปันให้แก่กัน ภาพมุมมองดีๆและรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความอบอุ่นใจเหล่านั้น กำลังเริ่มต้นขึ้น
แล้วคุณล่ะ..พร้อมหรือยังที่จะเริ่มเปิดใจทำดีไปด้วยกัน ด้วยความสามัคคี ด้วยพลังของความเป็นไทย ทำดีด้วยหัวใจ ร่วมกันรวบรวมส่งต่อร้อยพันล้านความจริงใจ...อวดดีครั้งนี้เพื่อยิ้มพ่อ
## จุดประสงค์ของโครงการ##
1. เพื่อเทิดพระเกียรติเนื่องในวันพ่อ 5 ธันวาคม 2555
2. ส่งเสริมและปลูกจิตสำนึกในการทำดี
3. เป็นแบบอย่างที่ดีแก่ผู้พบเห็น
4. สร้างสรรค์ แบ่งปันสิ่งดีๆ เติมรอยยิ้มแก่สังคม
5. เพื่อแสดงให้เห็นว่าการทำดีไม่ใช่เรื่องยาก และส่งเสริมให้ทุกคนหันมาทำดีแบ่งปันสิ่งดีๆให้มีแก่กัน
6. เพื่อแบ่งเบาภาระหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง ที่มีส่วนดูแลและมีอยู่ในส่วนของสถานที่ๆดำเนินกิจกรรม
ในกรณีที่ทำกิจกรรมนั้นเกี่ยวเนื่องเป็นการช่วยเหลือแบ่งเบาในภาระหน้าที่นั้นๆ
7. เพื่อส่งเสริมความสามัคคีในหมู่คณะ
8. เพื่อเป็นกิจกรรมแบบอย่างที่ดีในการรับน้อง
9. เพื่อเป็นกำลังใจแก่ผู้ที่ทำดี ว่าในสังคมนี้ไม่ดีมีท่านที่โดดเดี่ยว ทำดีอยู่เพียงลำพัง
## ขอบเขตของโครงการ##
มีระยะเวลา 1 วัน ดำเนินการทำกิจกรรมใน วันที่ 5 ธันวาคม 2555 เป็นระยะเวลาอย่างน้อย 99 นาที เพื่อเทิดพระเกียรติเนื่องในวันพ่อ จะเริ่มเมื่อไรที่ไหนอย่างไรตามแต่บุคคลจะเห็นชอบและสะดวกที่จะทำ
## ลักษณะรูปแบบกิจกรรม##
ทำดีง่ายๆไม่ต้องมีค่าใช้จ่ายหรือหากมีก็ต้องไม่มากมายนัก ไม่ส่งผลกระทบและก่อให้เกิดผลเสียแก่สังคม โดยมุ่งเน้นลักษณะกิจกรรมแบบเปิดสู่สาธารณะชนให้แก่สังคมแก่ชุมชนผู้พบเห็น และสามารถร่วมทำกิจกรรมร่วมด้วยกันได้ ตั้งแต่ระดับครอบครัว จนถึงการทำกิจกรรมสู่สาธารณะประโยชน์ตามแต่สถานที่ ชุมชน สังคม ที่อาศัยอยู่ อาทิเช่น เก็บกวาดขยะ ทำความสะอาด รณรงค์หรือปฏิบัติตามกฎระเบียบสังคม ซื่อตรงต่อหน้าที่ ละเว้นการกระทำผิด ส่งเสริมผลักดันการมีน้ำใจ ช่วยเหลือคนชราแบ่งปันที่นั่ง หยุดรถให้คนข้ามถนน ไม่ชิงไฟเหลืองไฟแดง ฯลฯ ซึ่งบางสิ่งบางอย่างอาจเป็นกิจวัตรประจำวันอยู่แล้ว หรือเป็นหน้าที่รับผิดชอบของเราเองหรือบุคคลอื่น ซึ่งกิจกรรมนี้เราไม่อาจจะหยิบยกตัวอย่าง หาความแตกต่างที่เคยมีเคยทำอยู่แล้ว แต่เราจะออกมาช่วยกันทำกิจกรรมดีๆ โดยไม่คำนึงถึงว่าจะเป็นหน้าที่ของใคร
อาจจะเป็นการทำความสะอาดตู้โทรศัพท์ ปัดกวาดเช็ดถูสถานที่สาธารณะ เก็บขยะตามป้ายรถเมย์ หรือบริเวณหน้าห้างสรรพสินค้า แจกผ้าเย็นหรือมอบน้ำดื่มแก่เจ้าหน้าที่จราจรเพื่อเป็นกำลังใจ สร้างความบันเทิงผ่อนคลายแก่สาธารณะชน หรือกิจกรรมอื่นใดอันเป็นประโยชน์แก่สาธารณะตามแต่กลุ่มคณะหรือบุคคลจะเห็นชอบ หรือสะดวกที่จะทำ ตามแต่โอกาส เวลาสถานที่ ที่จะพึงมีพึงให้ มีน้ำใจทำดีให้แก่กัน หลากหลายมุมมองหลากหลายแง่คิด การทำดีไม่มีขีดจำกัดที่จะทำและไม่สำคัญว่าจะทำอะไร ทำได้มากน้อยแค่ไหน ซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนแก้ไขรูปแบบกิจกรรมการทำดีให้เข้าและเหมาะสมแก่กลุ่มบุคคล
ขออภัยที่ประชาสัมพันธ์ช้า.....
http://www.facebook.com/CBRsCLUBKorat?ref=hl#!/events/174546642686181/
