บิดสนุกยิ่งขึ้นด้วยระบบDCTโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 16 พฤษภาคม 2555 16:11 น.
อีกหนึ่งเทคโนโลยีใหม่ของวงการรถจักรยานยนต์ สำหรับการติดตั้งระบบ DCT (Dual Clutch semi-automatic transmission) หรือระบบส่งกำลังแบบคลัตซ์คู่ในรถบิ๊กไบค์ 3 รุ่น ที่เอ.พี.ฮอนด้านำเข้ามาจำหน่ายในเมืองไทย อันประกอบด้วย สปอร์ตทัวร์ริ่ง Honda VFR1200F, Honda NC700x เน็ตเก็ตไบค์แบบ On/Off และบิ๊กสกู๊ตเตอร์ Honda Integra
โดยจุดเด่นของระบบ DCT เป็นการผสมผสานการถ่ายทอดกำลังที่ให้ประสิทธิภาพมากที่สุดในแบบแมนนวล และความนุ่มนวล สะดวกสบายในการใช้งานแบบออโตเมติก ซึ่งระบบดังกล่าวถูกออกแบบให้การทำงานของคลัตซ์นั้นแยกกันอิสระเป็น 2 ชุด ซึ่งแยกหน้าที่กันอย่างชัดเจน
สำหรับคลัตซ์ตัวแรกเป็นการทำงานสำหรับเกียร์ 1, 3 และ 5 ส่วนคลัตซ์ตัวที่สองสำหรับเกียร์ 2, 4 และ 6 ซึ่งขณะขับขี่ในเกียร์ 1 คลัตซ์ A สำหรับเกียร์เลขคี่ (1, 3 และ 5) จะทำหน้าที่ส่งกำลังขับเคลื่อน ส่วนในคลัตซ์ B สำหรับเกียร์เลขคู่ (2, 4 และ 6) จะหมุนฟรีอิสระในตำแหน่งเกียร์ว่าง แต่เมื่อมีการเปลี่ยนอัตราเร่งสู่เกียร์ 2 คลัตซ์ B จะเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์ว่าง เข้าสู่ตำแหน่งเกียร์ 2 โดยอัตโนมัติ และคลัตซ์ A จะสลับกลับเข้าสู่ตำแหน่งเกียร์ว่างแทนโดยอัตโนมัติเช่นกัน
ด้านโหมดการควบคุมแบ่งออกเป็น D แบบคลัตช์คู่ เพื่อตอบโจทย์ด้านความสะดวกสบาย และ S แบบสปอร์ต ตอบสนองการขับขี่ที่เร้าใจยิ่งขึ้น รวมถึงผู้ขับขี่สามารถเลือกโหมดการเปลี่ยนเกียร์เป็นแบบแมนนวล เพื่อเลือกชิฟท์อัพ-ดาวน์ ลากรอบได้ตามใจต้องการ(ชิฟท์อัพเปลี่ยนเอง ชิฟท์ดาวน์อัตโนมัติ)
สรุปแล้วระบบส่งกำลังแบบคลัตช์คู่ DCT จะให้ผลลัพธ์ที่นักบิดสามารถสัมผัสได้ถึงขุมพลังเครื่องยนต์ที่ส่งกำลังออกมาอย่างต่อเนื่องและลื่นไหล โดยไม่ละทิ้งความรู้สึกของการขับขี่แบบสปอร์ต และคงไว้ซึ่งความนุ่มนวลของการขับขี่แบบเกียร์อัตโนมัติ
เหนืออื่นใดพวกมือใหม่หัดขี่จะไม่ต้องกังวลเรื่องการกำคลัตช์เวลาเปลี่ยนเกียร์อีกต่อไป
นอกจากเรียนรู้ระบบ DCT ในภาคทฤษฎีแล้ว ยังเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนสัมผัสเทคโนโลยีคลัตช์คู่ในภาคปฏิบัติด้วย
บิ๊กสกู๊ตเตอร์ Honda Integra เป็นหนึ่งในสามรุ่นนำเข้าของฮอนด้าที่ติดตั้งระบบ DCT
เต๋า-สมชาย เข็มกลัด พรีเซ็นเตอร์รุ่นแรกๆ ของฮอนด้า มาร่วมทดสอบเทคโนโลยีคลัตช์คู่ในครั้งนี้ด้วย
