การออกทริปกันหลายๆคันย่อมมีปัญหาไม่เล็กก็ใหญ่เกือบทุกครั้ง แต่ก็มาพร้อมกับความสนุกสนานเฮฮาทุกที่ที่เราได้ไปเยือน และได้เห็นน้ำใจของเพื่อนๆทีช่วยเหลือกันยามมีปัญหา มาเริ่มกันเลยดีกว่า
1.เวลาและจุดนัดพบ/ต้องนัดกันให้แน่นอน(พูดกันในกลุ่มเรา)ล้อหมุน.......โมง หากบางคนมาสายก็สายได้ไม่เกินกี่นาทีเพราะส่วนใหญ่จะมาสายกันประจำ(ตัวผมเองด้วย)อาจจะทำให้คนอื่นที่มาก่อน
ต้องเสียเวลารอ บางคนอาจเสียความรู้สึก และส่วนใหญ่เรามักจะออกกันตอนเช้า ขืนรอให้ครบกันทุกคนก็อาจไปถึงที่หมายล่าช้า(อาจมีจุดนัดพบที่2สำหรับคนมาสายให้ตามไปเจอกันก็ได้
เวลาของส่วนรวมจะได้ไม่เสีย
2.เส้นทางที่จะเดินทางและจุดหมาย
คนที่กำหนดเส้นทางหรือที่ไปสำรวจเส้นทางมาแล้วย่อมรู้เส้นทางมากกว่าคนอื่น ก็แจ้งให้สมาชิกทุกคนทราบถึงเส้นทางที่จะใช้เดินทาง คงไม่รู้จักเส้นทางกันทุกคน และรวมถึงจุดแวะพัก ส่วนใหญ่จะเป็นปั้มน้ำมัน
และเวลาที่คาดจะถึงในแต่ละจุดเผื่อพวกมาสายได้ตามมาทันทีหลังด้วย(หรือสมาชิกตามพื้นที่ที่จะมาสมทบจะได้ไปรอถูกที่)จะทำไห้ไม่เสียเวลารอกันนานหรือหากันไม่เจอ
3.ระยะที่แวะพัก
ควรจะทำความเข้าใจกันก่อน เพราะว่าสมาชิกแต่ละคนขับรถชำนานไม่เท่ากัน มีทั้งมือใหม่ มือเก่า มือเก๋า รถแต่ง รถไม่แต่ง คนไม่เคยออกทริปเลย ปะปนกันไป มันมีความกลัว ความเกร็ง บางคันยังไม่พ้นรันอิน
ก็คิดกันไปอาจใช้จุดแวะพักกันนี่แหละ เป็นจุดค่อยๆปรับตัว ได้ผ่อนคลาย ได้พักรถ จะได้ไม่เครียจแล้วแต่จะตกลงกัน บางที100-150กม. 60-120กม. อันนี้แล้วแต่จะตกลงกัน หรือไม่ก็ตามแต่ผู้นำจะตัดสินใจ
ขึ้นอยู่กับระยะทางที่หมายว่าไกล้ไกลแค่ไหน และสภาพอากาศ ถ้าร้อนก็หยุดบ่อยหน่อย
4.แบ่งกลุ่มหรือจับคู่บั้ดดี้
ส่วนใหญ่กลุ่มเราจะออกกันประมาน15-25คัน (เท่าที่ตัวเองเคยออกมา)ก็แบ่งออกเป็นกลุ่ม เพราะบางทีมีรถแรง รถเดิม ซ่ามาก ซ่าน้อย แบ่งกลุ่มหน้า กลาง หลัง แบ่งกันแบบไม่เป็นทางการ ใช้ความเร็วเป็นตัวกำหนด
และการจับคู่บั้ดดี้ ก็จะได้คอยดูแลกัน อย่างรุ่นพี่(คนที่มีชั่วโมงบินแยอะกว่าว่างั้น)คอยดูรุ่นน้อง(คนที่ไม่เคยออกทริบเลย หรือนานๆทีมือใหม่ว่างั้น) แต่ส่วนใหญ่ไม่ค่อยตายตัวครับดูแลกันทุกคนส่วนเรื่องกลุ่ม
จะสลับกันไปมาหน้าบ้างหลังบ้างคนขี่เร็วก็ยกคันเร่งมาข้างหลังบ้างคนช้าก็เร่งมาข้างหน้าบ้าง แต่ทุกคนจะคอยดูแลกันหากมีคันไหนหายไปคันหน้าก็จะรู้ทันที
5.การขับแบบเป็นกลุ่ม
-แบบฟันปลา.การขับแบบนี้จะทำให้ทัศนวิสัยของคนขับดี ไม่เกี่ยวกัน ไม่บังกันเอง แบบนี้ใช้กันบ่อย
-แบบแถวตอนเรียง1. แบบนี้ส่วนใหญ่ขับกันในเมือง หรือการจราจรหนาแน่น การขึ้นเขา ลงเขา ในเส้นทางคดเคี้ยว ข้อดีคือจะได้รู้สไตล์การขี่ของแต่ละคน การแซง คันนำควรมีสัญญานมือ หรือไฟให้แซงได้
ในโค้งให้ระวังอย่างมาก ถ้าตามคันที่ช้ากว่า ต้องเปิดคันเร่งเพื่อแซงอย่างไม่ลังเล และห้ามแซงกันไกล้ๆเพราะอาจเกิดอันตรายได้ และอย่าขับรถคู่กันในโค้ง
-ที่สำคัญ ทุกคนต้องมีน้ำใจ รักกัน ให้อภัยกัน ไม่ใช่ว่าคันหลังแซงแต่กรูไม่ให้แซงหรือชวนแข่งกันซะงั้นอาจเกิดอุบัติเหตุกับคันอื่นได้ และก็พยายามเรียนรู้นิสัยการขี่ของแต่ละคนด้วยเพื่อประโยชน์ของเราเอง
6.สัญญานมือ
ติดเครื่อง คนนำขบวนยกมือขึ้นเหนือหัว ชี้นิ้วขึ้นแล้ววนสี่ห้ารอบ แปลว่าติดเครื่องโว้ย ........... (ผิดประการใดพี่ๆช่วยแก้ไขด้วยนะครับ)
คันหน้าชูมือขึ้นเหนือหัวยกนิ้ว1นิ้ว แปลว่าให้ขับแถวตอนเรียง1
คันหน้าชูมือขึ้นเหนือหัวยกนิ้วขึ้น2นิ้ว แปลว่าให้ขับรถ2แถวแบบฟันปลา (ตอนแรกผมเข้าใจว่าสู้ตาย)
ยกมือฉากกับลำตัว90องศา แปลว่าให้หยุด
ยกมือขนานกับลำตัวโบกขึ้นลง แปลว่าให้ชลอรถ (ส่วนใหญ่เจอแยกต่างๆ หรือมีการก่อสร้างทาง คันหน้าเห็นมีอะไรที่สมควรแก่การชลอความเร็วก็ยกมือขึ้น :-[
ทำมือคล้ายๆกับการถูพื้นประมาณนั้น :-\ แปลว่าถนนลื่น หรือมีน้ำ ให้ระวัง
ชี้มือลงข้างล่าง ด้านซ้ายหรือขวา มือไหนก็ได้ แปลว่ามีหลุม ให้ระวัง (หลุมเล็กหลุมใหญ่เดาเอาเอง) ;Dหลบไม่ทันระวังสติ้กเกอร์ติดขอบล้อดุ้ง55555+
โบกมือให้แซง แซงโลด
โบกมือไปด้านขวาหรือซ้าย แปลว่าให้เลี้ยวขวาหรือซ้าย
และอีกอันที่ใช้บ่อยคันนำหน้าคอยโบกมือแสดงตามแยกหรือจุดกลับรถหรือจะออกจากที่พัก
บอกว่าไปได้หรือยังไปไม่ได้หรือโบกให้รถใหญ่รู้ว่ามยังมีรถมอไซด์ตามมาอีก(น่าจะประมานนั้น)เพื่อนๆก็คงเห็นบ่อยอย่างพี่บอล หรือพี่แอ้ม หรือ เจ้อ้อ เวลานำขบวนจะเป็นคนไปโบก
รถใหญ่หรือรถอื่นที่วิ่งมาตามถนนจะได้รู้ว่ามีมอไซด์มาเป็นกลุ่มเค้าจะชลอความเร็วให้ หรือให้ทางเราไปก่อน
6. กันหลงทาง/รถปิดท้ายขบวน
ในกรณีที่ตามกันไม่ค่อยทันหรือรถอาจมีปัญหาก็ให้ตั้งรถมา1คันคอยจอดตามแยก ตามทางร่วมเพื่อรอคันหลังที่ยังตามมาไม่ทันเสมอเพื่อบอกเส้นทางที่ถูกต้องไห้กัน
ก็หน้าจะเป็นคนที่ขี่ได้ไวหน่อยหรือคนที่รู้เส้นทางเป็นอย่างดีอยู่ท้ายขบวนซึ่งสามรถแซงขึ้นไปบอกเส้นทางได้และรอจนกว่าหมดคันสุดท้าย เวลารถใครมีปัญหาก็สามารถขึ้นไปบอกคันหน้าได้หรือนำคันที่ช้าสุดไปถึงที่หมายได้
โดยไม่หลง และอีกอย่างควรมีเบอร์โทรของทุกคนเอาไว้ดว้ยหรือไม่ก็พกวิทยุสื่อสารกันจะได้รายงานกันเผื่อมีปัญหาจะได้รอกัน
และที่ขาดเสียไม่ได้เลยตัวเราเองควรเรียนรู้เส้นทางไปดว้ยและอย่าชะล่าใจว่ามีคนรอต้องพัฒนาตัวเองไปด้วยจะได้ไม่เป็นภาระของคนอื่น :-[
ก็คงมีเท่านี้ละครับผมก็เอาจากที่เคยไปกับพี่ๆเพื่อนๆมาเล่าสู่กันฟัง ผิดถูกยังไงขออภัยด้วยนะครับถ้ามีอะไรแก้ไขหรือให้ความรู้เพิ่มเติมบอกได้เลยครับ อาจจะเขียนบรรยายไม่ค่อยถูก ;) ;) ;)