SPY_CHEN
หักซ้าย หักขวา ไม่มีล้ม
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 287
นิรนามติดถัง
|
|
« ตอบ #20 เมื่อ: 10, มิถุนายน 2012, 01:07:46 PM » |
|
ฝากนิดนึงครับ ว่า เอทานอล(Ethanal)ไม่ได้แปลว่า แอลกอฮอล์ แต่เป็นชื่อของแอลกอฮอล์ชนิดหนึ่งต่างหาก ซึ่งเอทานอลมีอีกชื่อหนึ่ว่า "เอทิลแอลกอฮอล์" และแก๊สโซลีนก๊หมายถึงน้ำมันที่เราเรียกกันว่า"เบนซิน"นี่เอง เหมือนที่มีคนเรียก"น้ำมันดีเซล"ว่า"น้ำมันโซล่า"
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
pakwan110
|
|
« ตอบ #21 เมื่อ: 10, มิถุนายน 2012, 07:28:19 PM » |
|
ฝากนิดนึงครับ ว่า เอทานอล(Ethanal)ไม่ได้แปลว่า แอลกอฮอล์ แต่เป็นชื่อของแอลกอฮอล์ชนิดหนึ่งต่างหาก ซึ่งเอทานอลมีอีกชื่อหนึ่ว่า "เอทิลแอลกอฮอล์" และแก๊สโซลีนก๊หมายถึงน้ำมันที่เราเรียกกันว่า"เบนซิน"นี่เอง เหมือนที่มีคนเรียก"น้ำมันดีเซล"ว่า"น้ำมันโซล่า"
" ฝากนิดนึงครับ ว่า เอทานอล(Ethanal)ไม่ได้แปลว่า แอลกอฮอล์ แต่เป็นชื่อของแอลกอฮอล์ชนิดหนึ่งต่างหาก" แล้วตกลงมันเป็น แอลกอฮอล์ รึเปล่าครับ heuurrrr ((((( ผมอยากให้ทุกคนเข้าใจง่ายๆ คุณต้องเข้าใจว่าผู้ที่อ่านอยู่นั้นมีหลากหลาย ถ้าจะพูดแต่ศัพท์เทคนิกอย่างเดียวหลายๆคนจะไม่เข้าใจ เอทานอล กับ แอลกอฮอล์ มันก็เหมือนกับคำว่า มอเตอร์ไซค์ หมายถึง จักรยานยนต์ ))))) * เอทานอล เป็นแอลกอฮอล์ชนิดหนึ่งซึ่งเกิดจากการหมักของพืช เพื่อเปลี่ยนแป้งเป็นน้ำตาล จากนั้นจึงเปลี่ยนน้ำตาลเป็นแอลกอฮอล์ โดยใช้เอนไซม์หรือกรดบางชนิดช่วยย่อย เพื่อทำให้เป็นแอลกอฮอล์บริสุทธิ์ โดยส่วนใหญ่จะผลิตจากพืช สองประเภทคับ คือ พืชประเภทน้ำตาล เช่น ย้อย และจำพวกแป้ง เช่นมันสำปะหลัง ครับ *** วิชานี้เรียนตอน ปวส.ปี 1 จำแม้นขึ้นใจครับ" * " แก๊สโซลีนก๊หมายถึงน้ำมันที่เราเรียกกันว่า"เบนซิน"" ถูกต้องครับผมพิดเอง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
GuNnM99
|
|
« ตอบ #22 เมื่อ: 10, มิถุนายน 2012, 10:04:50 PM » |
|
ดีเบต กันแบบนี้ สมาชิกได้ประโยชน์สูงสุด l13
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Killerqueen
เริ่มติดใจในการขับ CBR
ออฟไลน์
กระทู้: 51
|
|
« ตอบ #23 เมื่อ: 10, มิถุนายน 2012, 10:53:41 PM » |
|
!goodjob !goodjob !goodjob
ความรู้ล้วนๆ ขอบคุณครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
jetlee
|
|
« ตอบ #24 เมื่อ: 11, มิถุนายน 2012, 05:26:11 AM » |
|
e20 พวกหัวฉีดลองกันดูยัง ;D
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ความกลัวไม่เคยหยุดพวกเราได้
|
|
|
NOKLEK
|
|
« ตอบ #25 เมื่อ: 12, มิถุนายน 2012, 03:12:21 PM » |
|
ประเด็นนึงที่รถเก่า ๆ ไม่สามารถเติม E20 ได้ ก็เพราะว่าแอลกอฮอล์ มันมีฤทธิ์เป็นกรดนะครับ มันจะไปกัดสายส่งน้ำมัน
แต่จริง ๆ แล้ว เบนซินก็มีฤทธิ์เป็นกรดครับ กัดสายเหมือนกัน ก็แค่ช้ากว่าแค่นั้นเองครับ ถ้าเป็นรถที่มีขวบปีมากแล้ว และปรับจูนเครื่องให้รองรับกับ E20 หรือมากกว่านั้นแล้ว ก็อย่าลืมดูแลเรื่องสายส่งน้ำมันด้วยนะครับ
ส่วนรถปีใหม่ ๆ ที่ระบุว่ารองรับกับ E20 เค้าก็ได้พัฒนาสายส่งน้ำมันให้ทนต่อการกัดกร่อนตามไปด้วยแล้วครับ
(เค้าไม่ได้พูดถึงเครื่องยนน๊าาาาา) <%6
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ลูกผู้ชาย ถึงจะตายในท่อ ก็ต้องมุดไปตายเอาดาบหน้า
|
|
|
TheGame
Certified Trader
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 545
กลิ้งๆๆๆ
|
|
« ตอบ #26 เมื่อ: 12, มิถุนายน 2012, 03:45:20 PM » |
|
ท่อน้ำมันตัวคาร์บูปี 49 ยังใช้E20 ได้2ไม่มีปัญหาครับสำหรับตัวรถของผมเอง ก่อนหน้าที่จะมาใช้ใช้E20 ก็ใช้E85มา1ปี เหตุผลที่เปลี่ยนมาใช้E20เนื่องจากย้ายมาอยู่จังหวัดพิษณุโลกไม่มีE85ขายเลยใช้E20 แต่มันก็เริ่มแข็งแล้วตามกาลเวลาในขณะนี้ก็ถือว่าคุ้มครับเปลี่ยนสายน้ำมันเมื่อเทียบกับราคาของน้ำมันที่เติมไป ประหยัดกว่ามากครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
pakwan110
|
|
« ตอบ #27 เมื่อ: 12, มิถุนายน 2012, 04:03:57 PM » |
|
ประเด็นนึงที่รถเก่า ๆ ไม่สามารถเติม E20 ได้ ก็เพราะว่าแอลกอฮอล์ มันมีฤทธิ์เป็นกรดนะครับ มันจะไปกัดสายส่งน้ำมัน
แต่จริง ๆ แล้ว เบนซินก็มีฤทธิ์เป็นกรดครับ กัดสายเหมือนกัน ก็แค่ช้ากว่าแค่นั้นเองครับ ถ้าเป็นรถที่มีขวบปีมากแล้ว และปรับจูนเครื่องให้รองรับกับ E20 หรือมากกว่านั้นแล้ว ก็อย่าลืมดูแลเรื่องสายส่งน้ำมันด้วยนะครับ
ส่วนรถปีใหม่ ๆ ที่ระบุว่ารองรับกับ E20 เค้าก็ได้พัฒนาสายส่งน้ำมันให้ทนต่อการกัดกร่อนตามไปด้วยแล้วครับ
(เค้าไม่ได้พูดถึงเครื่องยนน๊าาาาา) <%6
อ๋อ.. ผมกำลังเปรียบเทียบประสิทธิภาพจากการใช้แก๊สโซฮอล์ กับ เบนซิน ครับ และก็เรื่องค่า ออกเทน "ไม่ได้พูดถึงผลกระทบของแก๊สโซฮอล์นะครับ" เพราะเรื่องผลกระทบ ทุกคนหน้าจะทราบกันดีอยู่แล้วว่า แอลกอฮอลล์ มีคุณสมบัติ ในการกัดกร่อนสูง แต่ขอเสริมนิดนึงครับ - แก๊สโซฮอล์ในปัจจุบัน ได้เติม สารป้องกันสนิม Corrosion Inhibitor เข้าไปด้วย แต่มันจะสามารถป้องกันการกัดกร่อนได้แค่ชิ้นส่วนที่เป็นโลหะเท่านั้น เช่น กเหล็ก ทองแดง ทองเหลือง และโลหะอัลลอย ที่อยู่ในทางเดินน้ำมัน (((ในรถยนต์ท่อส่งน้ำมันเป็นโลหะครับ ถ้าเป็นมอเตอร์ไซค์ก็ท่อไอดี หัวฉีด คาร์บูเรเตอร์ ครับ))) ส่วนท่อยางที่คุณ NOKLEK พูดถึงนั้นจะเป็น ท่อยาง ประเภทบิวทัล รับเบอร์ (Rutyl Rubber) ส่วนพวกพลาสติกก็จะเป็น เอบีเอส (Acrylonitrile Butadiene Styrene ; ABS) พีวีซี (PolyVinyl Chloride ; PVC) โพลิคาร์บอเนต (Polycarbonate) ฟลูออโรคาร์บอน (Fluoro-Carbons) พวกนี้ครับ ข้อมูลนี้ถ้าผมจำไม่ผิดหน้าจะอยู่ใน ศูนย์เทนโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาตินะครับ หรือ พิมพ์ MTEC ค้นหาใน Google.co.th ครับ :D
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
NOKLEK
|
|
« ตอบ #28 เมื่อ: 12, มิถุนายน 2012, 04:10:12 PM » |
|
แฮะ ๆ ๆ ก็เห็นในกระทู้พูดถึงการจูนจากผู้ร่วมอ่านท่านอื่น ๆ ด้วย ก็เลยบอกกับผู้ที่อ่านแล้วสนใจอ่ะครับ รู้หลาย ๆ ด้านก็ดีนะ จะได้ไม่มาพูดว่า "ของมันห่วย" เพราะไม่รู้
รักกัน ชอบกัน ก็ต้องรู้จักกันในหลาย ๆ ด้าน (แต่ยังไงเค้าก็รัก CBR นะเจ้าค่ะ >SAFE$# >SAFE$# >SAFE$# >SAFE$# >SAFE$#)
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ลูกผู้ชาย ถึงจะตายในท่อ ก็ต้องมุดไปตายเอาดาบหน้า
|
|
|
NOKLEK
|
|
« ตอบ #29 เมื่อ: 12, มิถุนายน 2012, 04:16:34 PM » |
|
แล้วก็ เนื่องจากนี่เป็นเว็ป CBR150 ก็คงมีไม่น้อยที่ใช้ CBR150R สายที่ดูดน้ำมันจากถังไปคาบูร์นั่นแหละหนึ่งแล้วครับ (มีอีกรึเปล่าผมไม่ทราบนะครับ)
แค่เตือนอ่ะครับ ไม่อยากได้ยินว่า "CBR เรื่องมาก จุกจิก" อ่ะครับ
รักสุด ๆ ปกป้องสุดฤทธิ์ครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ลูกผู้ชาย ถึงจะตายในท่อ ก็ต้องมุดไปตายเอาดาบหน้า
|
|
|
knott
เริ่มติดใจในการขับ CBR
ออฟไลน์
กระทู้: 30
|
|
« ตอบ #30 เมื่อ: 12, มิถุนายน 2012, 07:55:36 PM » |
|
เอทานอล เมื่อนำมาใช้ในเครื่องยนต์ สามารถรองรับ A:F ratio ได้มากกว่า เบนซินครับ ทำให้แรงได้มากกว่าเบนซินครับ แม้ว่าค่าพลังงานเอทานอลจะนอ้ยกว่าเบนซิน โดยเครื่องยนต์ที่ใช้ต้องทำการปรับแต่งเล็กน้อยในส่วนของระบบจ่ายเชื้อเพลิงแล้วจะเห็นผลครับ อย่างของผมก็เปลี่ยนนมหนูหลักจาก 115 --> 118 --> 120 --> 123 จบที่ 123 ครับ แล้วแต่รถใครรถมัน ของอย่างนี้ต้องลอง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
gmza40081
|
|
« ตอบ #31 เมื่อ: 15, มิถุนายน 2012, 04:44:24 AM » |
|
ผมคิดแล้วแต่ตังในกระเป๋า และ '' ความพอใจ '' นะ >> ปล.ความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ :D :D >yes >yes >yes !ohno !ohno >%REDD >%REDD >SAFE$# >SAFE$# >SAFE$# >jakkkk >jakkkk >jakkkk > > <go <go
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
laikang1
ฮอนด้าคันร้าย ที่เธอไม่เหลียวแล
หักซ้าย หักขวา ไม่มีล้ม
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 249
|
|
« ตอบ #32 เมื่อ: 16, มิถุนายน 2012, 06:44:50 AM » |
|
เอทิลแอลกฮอล์ เพิ่มออกเทนได้จริงครับ แต่ค่ากำลังความร้อนต่ำกว่าแก๊สโซลีนเมื่ออ้างอิงจากตาราง appendix เปรียบเทียบพลังงานความร้อนแล้ว ซึ่งพลังงานความร้อนนี้ใช้ประยุกต์ใน otto cycle(ถ้าจำไม่ผิดนะครับ) ของรายวิชา thermodynamics (ว่าด้วยการเปลี่ยนรูปของพลังงาน) โดนappendix อ้างอิงค่าพลังงานความร้อนต่อลิตรของ เบนซิน = 34.8 เอธานอล =21.2 เมื่อคิดเป็นโซฮอลe20 แล้ว ค่าความร้อนจะอยู่ที่ประมาณ 32MJ/L ซึ่งไม่ได้ต่างกันมาก ฉะนั้นถ้าอยากได้กำลังให้เท่าแก๊สโซลีนเดิมก็ต้องเพิ่มปริมาณน้ำมันในการจุดระเบิดอีกนิด(ถ้าถือว่าการจุดระเบิดของทั้งgasohol และgasoline สมบูรณ์เท่าๆกัน) http://en.wikipedia.org/wiki/Gasolineผิดประการใดขออภัยมาณที่นี่ ;)
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ร้ายก็รักนะ :]
|
|
|
psy_self
|
|
« ตอบ #33 เมื่อ: 16, มิถุนายน 2012, 09:28:16 AM » |
|
ขอถามแบบผู้ไม่รู้นะครับ ว่า CBR 150R ปี 2546 ใช้ แก็สโซฮอล์ ได้ไหมครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
laikang1
ฮอนด้าคันร้าย ที่เธอไม่เหลียวแล
หักซ้าย หักขวา ไม่มีล้ม
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 249
|
|
« ตอบ #34 เมื่อ: 16, มิถุนายน 2012, 06:44:39 PM » |
|
E10 เติมได้โดยไม่ต้องปรับแต่งครับ E20กับE85ต้องไล่นมหนูและE85ต้องเพิ่มขนาดสายน้ำมันเข้าcarburator และถ้ารถที่มีสนิมในถังมากใส่กรองเบนซิลแต่งก็ได้ครับ ถอดมาล้างง่ายดี :D
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ร้ายก็รักนะ :]
|
|
|
psy_self
|
|
« ตอบ #35 เมื่อ: 16, มิถุนายน 2012, 09:45:24 PM » |
|
E10 เติมได้โดยไม่ต้องปรับแต่งครับ E20กับE85ต้องไล่นมหนูและE85ต้องเพิ่มขนาดสายน้ำมันเข้าcarburator และถ้ารถที่มีสนิมในถังมากใส่กรองเบนซิลแต่งก็ได้ครับ ถอดมาล้างง่ายดี :D
ขอบคุณครับ เพิ่งซื้อมือสองปี 46 มาคับ ช่วยประหยัดค่าน้ำมันไปได้หน่อย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
K-1
|
|
« ตอบ #36 เมื่อ: 06, กรกฎาคม 2012, 06:30:40 AM » |
|
แล้ว cbr150 i ตัวใหม่ใช้น้ำมันชนิดไหนถึงจะดีที่สุดครับ อยากรายระเอียด และขออภัยด้วยผมมือใหม่ครับ <%6
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
pakwan110
|
|
« ตอบ #37 เมื่อ: 06, กรกฎาคม 2012, 05:18:13 PM » |
|
แรงดัดกระบอกสูบอยู่กรึ่งกลางระหว่าง 10:1 และ 12:1 CBR150R 2011-12 มีแรงดัดกระบอกสูบ 11:1 มันก้ำกึ่งที่จะใช้ออกเทน 91 หรือ 95 ถ้าแรงอัด 12:1 ใช้ออกเทนต้อง95 ถ้าแรงอัด 10:1 ควรใช้ออกเทน91 ครับ
เบนซินให้พลังงานมากกว่า แอลกอฮล์ ดังนั้นประสิทธิภาพสูงสุดต้องเป็น เบนซิน ครับ
สรุป - อยากได้ประสิทธิภาพสูงสุดของเครื่องยนต์ใช้ เบนซินออกเทน95 (แรงอัดกระบอกสูบที่ 11:0 รอบการทำสูงสุดเกิน 10,000รอบ/นาที เหมาะครับ ชั่วชักยาวกำลังดี) ถ้าหาเติมเบนซินไม่ได้ ก็หาเติม แก๊สโซฮอล์ 95 E10 ประสิทธิภาพสูงแทน ราคาต่างกันเกือบๆ 3 บาท - ขี่สะบายๆไม่ใช้รอบสูง ไม่ขับเร็ว ไม่คิดอะไรมาก เบนซิน91,แก๊สโซฮอล์ 91 E10 หรือ E20 ก็ได้ แต่แน่นอนว่า "เบนซินให้พลังงานมากกว่า แอลกอฮล์" สมมุติถ้าเบนซิน 1ลิต ไปได้ 40km แต่แก๊สโซฮอล์E20 ไปไม่ถึง 40km แน่ๆครับ" (ในทางทฤษฎีค่าใช้จ่าย แก๊สโซฮอล์ อาจจะดูเหมือนว่าประหยัดกว่า แต่จริงๆแล้วมีค่าเทียบเท่ากัน)
ถ้าท่านใดไม่เชื่อในทฤษฎีนี้ ในประเทศไทยมีเครื่องทดสอบเครื่องยนต์สำหรับมอเตอร์ไซค์อยู่หลายที่ ไปทดสอบกันได้ครับ ผมจะใช้เบนซิน 95 ท่านใช้ E10 หรือ E20 ที่ไม่ใช่ประสิทธิภาพสูง แล้วมาดูกันว่าใครจะเหนือกว่า ใครแพ้จ่ายค่าใช้จ่าย
:D
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
LiPo
|
|
« ตอบ #38 เมื่อ: 06, กรกฎาคม 2012, 05:39:49 PM » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
pakwan110
|
|
« ตอบ #39 เมื่อ: 06, กรกฎาคม 2012, 07:31:16 PM » |
|
ยังอยู่ในขั้น "นโยบาย" มันต้องผ่าน คณะกรรมการบริหารกระทรวงฯ - ส่ง ครม.(ถ้าผ่าน) - ส่งเข้าสภาฯ(ถ้าผ่าน) - ออก พรบ. :D - ถ้าเกิดผลกระทบมาก ก็ไม่อาจยกเลิกได้นะครับ -
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|