แตกต่างกันครับ จากที่เคยได้ใช้มาทั้งสองรุ่นนี้
cb500f เป็นรถสไตล์ naked รถเปลือยแฟริ่ง มีแฮนด์บาร์ที่สูงและกว้าง ทำให้นั่งตัวตรงกว่า วงเลี้ยวเลี้ยวได้มากกว่า คล่องตัวในการจราจรที่หนาแน่นหรือในพื้นที่แคบๆหรือถนนที่ต้องซอกแซ๊กไปมา เหมาะสำหรับขับเรื่อยๆในเมืองไม่ต้องความเร็วสูงสุดมากนัก เพราะถ้าเกิน 140 กม/ชม.ขึ้นไปคุณจะโดนลมอัดปะทะจนเหนื่อยเลยล่ะครับ ดังนั้นผู้ที่ชอบรถแนวนี้แต่ชอบขับเร็วๆ ควรหาชิวหน้าติดเพิ่ม พอช่วยเรื่องลมปะทะได้ครับ
cbr500r เป็นรถสไตล์ sport ฟูลแฟริ่ง แฮนด์จับโช๊ค สไตล์สปอต ท่านั่งต้องก้มนิดหน่อย วงเลี้ยวแคบ คล่องตัวในพื้นการจราจรที่ไม่หนาแน่นมากนัก สามารถใช้ความเร็วได้สูงสุด โดยที่คุณไม่ต้องกังวลที่จะโดนลมอัดปะทะตัวจนเหนื่อย มันคือรถ ฟูลแฟริ่ง ที่จะทำหน้าที่ลู่ลมรีดลม ไม่ให้ลมปะทะตัวคุณจนมากเกินไป