อันนี้เป็นหนึ่งใน DIY ที่จะลงไว้ เป็นอันแรกของหลายๆ อัน เพราะคิดว่าจะทำตัวให้เป็นประโยชน์บ้าง ผิดถูกช่วยแก้ไข แนะนำด้วยครับ ถ้ามีข้อมูลที่ดีกว่าผมก็อยากรู้ ข้อมูลที่ผิดผมก็อยากแก้
ยาง สิ่งสำคัญของรถ เพราะรถของเรา ติดกับพื้นแค่สองล้อ และมีพื้นที่สัมผัสแค่ขนาดเท่าอุ้งมือเด็ก เราจึงต้องใส่ใจกับมัน
ทีนี้ ปัญหามีอยู่ว่า
1.ทำไมต้องเปลี่ยนยาง เพราะยาง ทำมาจากยาง เป็นวัสดุโพลีเมอร์ ซึ่งเสื่อมสภาพได้เร็วเมื่อโดน UV ในแสงแดด ความร้อน ความดัน และเมื่อหมดอายุแล้ว ประสิทธิภาพจะลดลงอย่างชัดเจนน่ากลัว ที่เราเรียกว่า “ลื่น” สองล้อของเราถ้าลื่น = อุบัติเหตุ
2.เปลี่ยนเมื่อไหร่ ความเข้าใจผิดอย่างหนึ่งคือ ยางต้องซื้อปีใหม่ๆ เสมอๆ แต่ที่จริงแล้ว ยางที่ผลิตมาจากโรงงาน หากยังไม่ได้ใส่รถ สูบลม และสัมผัสกับพื้น เก็บรักษาเอาไว้ในที่เย็น ไม่โดนแสงแดด และหมั่นกลับ กลิ้งยางเพื่อกระจายจุดรับน้ำหนักเสมอ ยางที่ยังไม่ได้ใช้นั้น จะมีอายุ 5 ปี เป็นอย่างต่ำ ยางที่มีอายุจากวันผลิตเกิน 5 ปี ไม่ควรเอามาใช้ (มอเตอร์ไซ)
สังเกตว่าเมื่อเราซื้อมาใหม่ ยางจะลื่น และหน้ายางมีลายเส้นสีเหลือง เขียว นั่นคือ “น้ำยารักษายาง” ที่ทางโรงงานทามาเพื่อป้องกัน UV มาทำร้ายเนื้อยางก่อนการใช้งาน
และ เมื่อใส่ยางลงไปในรถแล้ว จะวิ่ง หรือไม่วิ่งก็ตาม อายุการใช้งานเมื่อเติมลมและมีน้ำหนักรถกดทับ จะมีอายุราว 2 ปี
ยางยังหมดอายุได้โดยความร้อนจากการใช้งาน (ไม่ใช่ว่าจอดรถที่ร้อนๆ ตากแดดนะครับ อันนั้นมัน UV ) ยางที่หมดอายุจากการใช้งาน เพราะเวลาเราวิ่งยิ่งบดถนน มีการยืดขยายที่แก้มยาง หน้ายาง และอากาศภายในมีแรงดัน เกิดเป็นความร้อน ลองวิ่ง แล้วเอามือไปจับหน้ายาง อุ่นใช่มั้ยล่ะครับ นั่นล่ะครับ และเมื่อยางใช้งาน มีความร้อนสะสมมากๆ แล้ว ยางนั้นจะหมดอายุ เนื้อยางอาจจะแข็งกระด้างได้โดยที่ไม่ต้องรอ 2 ปี สังเกตได้โดยการที่เราเอาเล็บจิกเนื้อยางแล้วมันแข็ง หรือว่าเอามือลูบแล้ว เรียบลื่น ไม่สากนิ่มคล้ายยางลบเหมือนที่เคยเป็น
สรุปว่า 2.1 อายุจากวันผลิต 5 ปี (ดูจากวันที่ผลิต ตัวเลข 4 หลัก)
2.2 ใส่รถมาแล้ว 2 ปี (นับจากวันที่ใส่ ใช้วิ่งหรือไม่ก็ตาม และอาจอายุสั้นลงอีกถ้าไม่ได้เอาไปวิ่งบ้าง)
2.3 วิ่งมาแล้วครบจำนวนระยะทางของยางนั้นๆ (เช่นยางแข่งวิ่งได้ 6000 โล เพราะเนื้อนิ่ม ความร้อนสูง ยางทัวรริ่งวิ่งได้ 20000 โลเพราะเนื้อแข็ง
3.ดูได้จากอะไร
3.1 เนื้อยางแตกลายงา แตกเป็นริ้วๆ ร่องๆ ไม่เป็นเนื้อเดียวกัน (ยางบางรุ่นก็อาจแตกก่อนอายุเป็นปกติของมัน)
3.2 วันที่ผลิต เลขสี่หลักบนยาง
3.3 ร่องดอกยางหมด หน้ายางหมดไปถึงสะพานยางหรือตัวบ่งบองว่าควรเปลี่ยน ที่มีอยู่บนยาง
3.4 มีการหลุด ร่อน ฉีก ในเนื้อยาง
3.5 เนื้อยางแข็ง เอาเล็บจิกดู หรือใช้วิธีอะไรก็ว่าไป
3.6 มีรู รอยรั่ว
นอกจากนี้ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นที่ขอบยาง (กำแพงด้านข้าง) เช่น มีรอยกรีดเข้า เจาะทะลุ ไหม้ เสื่อม มีโอกาสน้อยมากที่จะสามารถใช้ได้อยู่ เพราะแผลหรือความเสียหายตรงส่วนนี้ไม่สามารถซ่อมแซมได้ และอาจนำไปสู่การระเบิด อันตราย
พล่ามมายาวมาก วันนี้ ผมจะมาเปลี่ยนยางให้ CBR250 ABS ของผม คือยางคู่เดิมนั้น คือ irc rx-01 ยางเดิมติดรถที่จริงๆ แล้ววิ่งได้ 18000- 20000 กม ใน 2 ปี แต่ว่ายางนี้วิ่งมาแค่ 10000 กิโลเมตร แต่ผมต้องเปลี่ยน เพราะว่ามันติดรถมาสองปีแล้ว
ลองดูแล้วกันครับว่าทำไมต้องเปลี่ยน
ลองดูที่ข้อ 3. ด้านบนของผมครับ
แตกลายงาแล้ว
เนื้อยางมีการฉีก ทะลุ โดยไม่มีวัตถุอื่นเป็นสาเหตุ ไม่ใช่ตะปูหรือแก้วอะไรทั้งนั้น
ดู ไม่มีอะไรเลย
แม้ความลึกดอกยางจะยังเยอะเหลืออยู่ แต่ว่าจริงๆ มันแข็งกระด้างไปหมดแล้ว เอาเล็บจิกดูก็รู้
เพราะงั้นเปลี่ยนกันเถอะ
เริ่มจากเครื่องไม้เครื่องมือ เตรียมให้พร้อม แล้วก็เอารถขึ้นสแตนด์ อะไรก็ได้ให้ล้อมันลอยขึ้น คนปกติก็ใช้สแตนด์ DMP หรือว่าอะไรก็ว่าไป แต่ของผม เจ้านี่ครับ ทำเอง ภูมิใจมาก ยกได้ทั้งสองข้างพร้อมกัน เย้ (ดูได้จากกระทู้นี้
http://www.cbr150club.com/board/index.php?topic=55182.0 )
ถอดล้อหน้า คลายแกนล้อ
ถอดล้อหน้า คลายน๊อตหนีบแกนล้อ (บางรุ่นมี บางรุ่นไม่มี ดูด้วยครับ)
ถอดออกมา
เก็บสเปเซอร์ให้ด้วย ดูแล้วจำไว้ว่าด้านซ้ายหรือว่าด้านขวา แต่รถของผม เท่ากันทั้งสองข้าง
ล้อหลังก็เช่นกัน คลายน๊อตหางปลาตั้งล้อออกให้หมด แล้วคลายน๊อตแกนล้อ
เนื่องจากรถผม เป็นโซ่แบบไรข้อต่อ ไม่สามารถถอดได้ ต้องคล้องออก
ใน CBR150 หรือว่ารถวิบากต่างๆ จะเป็นแบบมีข้อต่อ (กิ๊ปล๊อค) ให้ปลดออกแล้วก็คลายโซ่ออกไปครับ
แล้วดันล้อหลังให้เข้าไปในระยะหน้าสุด เพื่อให้โซ่หย่อน มีระยะให้เราถอดโซ่ครับ
นี่คล้องโซ่ออก จะได้ถอดล้อออกมาได้
ถอดแกนล้อออกมาจ้า
ถอดดุมสเตอร์ แล้วก็เก็บลูกยางดุมสเตอร์ไว้ครับ เดี๋ยวหล่นหาย แพงน้า
เย้ ได้แล้วทั้งสองล้อ
สามารถเปลี่ยนยางได้สองวิธีครับ เปลี่ยนเอง หรือว่าเอาไปให้ร้านเปลี่ยน
โดยปกติ ผมเปลี่ยนเอง โดยใช้เครื่องที่ผมทำเอง แต่ว่าวันนี้ ทำให้เห็นได้ง่ายๆ ก็เลยเอาไปเปลี่ยนที่ร้านครับ เพราะง่ายกว่า ราคาถูกกว่า
ไปที่ร้าน เฮียเห็นก็จัดการ บีบขอบ
ลูกน้องก็ทำด้วย
งัดยาง แล้วหมุนเครื่อง ไต่ขอบ
ออกแล้ว
ขาวจัง
แล้วก็ใส่ยางใหม่ลงไป
ทำเหมือนเดิม ย้อนกลับ แล้วเติมยางเกินหนึ่งรอบ เพื่อดันให้ขอบยางไปแตะกับขอบแม๊ก ให้สนิท (ระเบิดดัง โป๊ะ!!!)
เสร็จแล้ว ทั้งหมดนี้ ใช้เวลาแค่ 6 นาที เฮียทำเร็วมากๆ มาถึงยากยางขึ้น กดเครื่องหนีบแม็ก งัด หมุนๆๆ ยกออก ใส่เข้า งัด กดปุ่ม หมุนๆๆๆ งัด หมุนๆๆๆ แล้วเอาออกมา เติมลม สองรอบ เสร็จ มืออาชีพจริงๆ
กลับมาบ้านแล้ว มาถ่วงล้อกันดีกว่าครับ เพราะว่า เขาไม่ถ่วงให้ แถม ต่อให้ถ่วงให้ ก็ไม่ดีเท่าถ่วงเองครับ เขาไม่ละเอียดใส่ใจเท่าเรา นี่คือเครื่องถอดยาง + ถ่วงล้อของผมครับ แต่ว่าวันนี้เอามาถ่วงล้ออย่างเดียว
โดยในบทบาทของการถ่วงล้อ หน้าที่ของเครื่องคือ เอาไว้วางแกนล้อ โดยทำให้มีแรงเสียดทานต่อการหมุนน้อยที่สุด เพื่อที่เราจะสามารถทดสอบหาจุดที่มีน้ำหนักสูงสุดของวงล้อได้
หลักการก็คือ ถ้าแกน และ ล้อไม่มีความฝืด
เมื่อเราเอาล้อไปวางแล้ว จุดที่มีน้ำหนักมาสุด จะถูกโน้มด้วยแรงดึงดูดโลกมากที่สุด ทำให้มันลงมาจุดต่ำสุด และจุดที่อยู่ตรงข้ามจุดหนักสุด ก็คือจุดเบาสุด
เราต้องถ่วงน้ำหนักที่จุดต่ำสุดครับ
อันนี้ลูกปืน ทำไงก็ได้ให้มีความฝืดน้อย ผมไปซื้อลูกปืนความฝืดต่ำสำหรับรอบต่ำจาก NTN มา
วางสอดแกนล้อแบบนี้
วัดระดับน้ำซิ
ใส่ล้อ ที่มีจานเบรกลงไป (เพราะจานเบรกเองก็เป็นส่วนหนึ่งของการหมุน)
วิธีการถ่วงล้อนะครับ หาในยูทูบน่าจะดีกว่า แต่ผมจะพยายามอธิบายด้วยภาพ
1.ได้ล้อมาวางบนเครื่องแล้ว เราก็จัดการ เอาจุ๊บลมมาวางไว้บนสุดก่อน เอาให้มันมองง่ายๆ
แล้วเราก็ปล่อยให้มันไหลไปครับ ให้มันหมุนไปเอง ไมต้องไปยุ่งกับมัน ไปเรื่อยๆ จนมันหยุด แล้วเอาเทปสีๆ มาติดเป็นสัญลักษณ์เอาไว้ในส่วนบนสุด หรือส่วนที่เบาสุดของล้อ
2.เมื่อได้จุดมาร์คแล้ว เอาจุดมาร์คเป็นหลักครับ ตั้งจุดมาร์ค ทำองศา 135 กับแนวตั้ง ปล่อยให้มันไหลจนหยุดนิ่ง ดูว่ามันกลับไปที่เดิมที่เรามาร์คเอาไว้เป๊ะหรือไม่ ถ้าไม่ ให้ติดสัญลักษณ์ใหม่ลงไป
3.เมื่อได้จุดมาร์ค 2 จุดแล้ว เอาสองตัวนั้นเป็นหลัก ตั้งอยู่บนสุด แล้วหมุนไป 90 องศา ปล่อยให้มันไหลจนหยุดนิ่ง ดูว่ามันกลับไปที่เดิมที่เรามาร์คเอาไว้เป๊ะหรือไม่ ถ้าไม่ ให้ติดสัญลักษณ์ใหม่ลงไป
4.เมื่อได้จุดมาร์ค 3 จุดแล้ว เอาสามตัวนั้น เฉลี่ย เป็นหลัก ตั้งบนสุด หมุนไป 40 องศา ปล่อยให้มันไหลจนหยุดนิ่ง ดูว่ามันกลับไปที่เดิมที่เรามาร์คเอาไว้เป๊ะหรือไม่ ถ้าไม่ ให้ติดสัญลักษณ์ใหม่ลงไป
5.ทำเหมือน 2 3 4 แต่เปลี่ยนใหม่เป็น 15 องศา
คงไม่ต้องอธิบายมากว่าผมต้องการอะไร คือผมต้องการให้วงล้อ หมุนไปตำแหน่งไหนๆ ก็ได้ แล้วปล่อยมัน
-ถ้ามันสมดุลน้ำหนักเท่ากันจริง ไม่ว่าเราจะหมุนไปที่ไหน มันก็จะหยุดอยู่ที่นั่น ไม่หมุน
-แต่ถ้าน้ำหนักไม่สมดุล ไม่ว่าเราจัดมันไปตรงไหน มันจะหมุนไปที่หาที่ๆ หนักสุดของมันเสมอ
จาก4 ข้อด้านบน เราก็เอาน้ำหนัก ไปลองแปะดูตรงจุดนั้น เริ่มจาก 5 – 10 – 20 – 30 อะไรก็ว่าไปใส่เข้าไป ลองดูว่าอะไรทำให้ล้อหยุดหมุนได้ทุกตำแหน่ง ก็ใช้อันนั้น
แล้วเมื่อล้อหยุดหมุนแล้ว เราก็แปะ หรือว่าติดตัวน้ำหนักนั้นลงไป ให้ถาวร มีทั้งเป็นตะกั่ว หรือ เหล็ก
มีทั้งแบบ แปะกาว แบบหนีบด้านเดียว สองด้าน มากมายให้เลือกซื้อเลือกใช้ แปะไปเลย
แค่นี้ ก็ถือว่าถ่วงล้อเสร็จ แล้วเราก็พร้อมเอากลับไปใส่รถแล้วครับ
ประกอบรถ ก็ย้อนกลับขั้นตอนเดิม
อย่าลืมตั้งโซ่
แล้วอย่าลืมใส่น้ำยากันคลายในที่ต่างๆ ด้วย อย่างละหยด ตามแต่สเป็ก
เสร็จแล้วเจ้าข้า
ดูหน้า
ดูหลัง
เดี๋ยวจะมี DIY อื่นๆ จากผมอีก คือปกติทำรถอยู่แล้ว แต่ทำคนเดียว ไม่ได้ถ่ายรูป ดูไร้ประโยชน์ หลังๆ จะพยายาม ถ่ายรูปมาเผื่อเพื่อนสมาชิกด้วยครับ
ทั้งหมดนี้ เป็นภาพของผม ข้อความของผม คนเดียว เนื้อหาอาจมีผิดพลาด ขออภัยไว้ล่วงหน้า และถ้าอะไรผิด รบกวนแก้ไขได้เลยครับ ผมเองก็ยังต้องเรียนรู้
มาช่วยกันทำรถให้เป็นเรืองสนุกดีกว่า
อันนี้ที่เคยทำครับ CBR150 ER6n D-tracker 250 GSXR1000rr MSX KSR บลาๆๆๆๆ