CBRsCLUB
 
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 



หน้า: 1 2 [3] 4   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: CBR 150 Honda แจ้งเลิกสายพานการผลิตแล้ว  (อ่าน 25532 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
kanung
ตามมาเร็ว เดี๋ยวจะพาไปออกทริป
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 370


การเดินทาง ย่อมสนุกกว่า การถึงที่หมาย

kanung16_nung@hotmail.com
« ตอบ #40 เมื่อ: 26, มีนาคม 2010, 06:40:53 AM »

 @#%$( <cry
บันทึกการเข้า


En_golf
ตามมาเร็ว เดี๋ยวจะพาไปออกทริป
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 410


[URL=http://img192.imageshack.us/i/43b6931.jpg/][I


อีเมล์
« ตอบ #41 เมื่อ: 27, มีนาคม 2010, 03:17:36 AM »

ไม่จริงครับที่ เลิก >>no >>no สายการผลิตครับ ผมรู้ครับ เพราะผมสัมผัสอยู่ทุกวันครับ
บันทึกการเข้า
OffZaa
CBR อาจขาดคนขี่ได้...แต่คนขี่ขาดCBR..ไม่ได้นะ
ตามมาเร็ว เดี๋ยวจะพาไปออกทริป
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 441


ขับขี่ด้วยความปลอดภัยโปรด..สวมถุงยางอนามัยทุกครั้งครับ!!!


อีเมล์
« ตอบ #42 เมื่อ: 27, มีนาคม 2010, 03:25:18 AM »

ยกเลิกการผลิตอย่างเดียวนี่..ไม่ได้ยกเลิกการขาย..ที่เหลือๆอยู่ก็ขายกันไป อิอิ
บันทึกการเข้า



รถคันนี้สีแดง

085-5585005

เลขบัญชี...PM บอกเท่านั้น!!

cat_kapong@hotmail.com

http://www.facebook.com/sweetoffzaa

http://sweetoffzaa.hi5.com

ชื่ออ๊อฟ.....ครับ
nola
I'm CBRsCLUB
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 621


nola1822@hotmail.com
อีเมล์
« ตอบ #43 เมื่อ: 27, มีนาคม 2010, 06:38:50 AM »

 >yes
บันทึกการเข้า
suchet
ถึงจะเล็ก.....แต่ก็จะโต....ครายจะทามมายยย
ตามมาเร็ว เดี๋ยวจะพาไปออกทริป
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 415


คิดให้ใหญ่ ...ตั้งใจ มุ่งมั้น แน่วแน่ ยังไงก็ทำได้

chet_hondapiya@hotmaill.com
อีเมล์
« ตอบ #44 เมื่อ: 27, มีนาคม 2010, 07:34:00 AM »

 :D :D :D :D :D :D :D

จากข้อมูลที่น่าเชื่อถือได้ ได้ความดังนี้

1. เลิกผลิตแน่ แต่เลิกผลิตคาร์บูมาใช้หัวฉีดแทน

2. แนวโน้มที่ว่าจะเปลี่ยนเครื่องยนต์ใหม่ให้ใหญ่ขึ้นมีโอกาสน้อยแล้ว เพราะกฎหมายในการลดหย่อนภาษีในการผลิตบ้านเรายังใช้ไม่เกิน150ซีซี
     ถ้ามากกว่านี้ภาษีแพง ทำให้ราคารถแพงขึ้นอย่างแฟนทอม ลดต้นทุนในการผลิตลง ลดการชุบโครเมี่ยมลงแต่ราคาแพงลิบ
     แต่ถ้าเป็นซีบีอาร์เทคโนโลยีเยอะกว่า ราคาคนไทยสู้ไม่ไหวแน่

3. เครื่องยนต์ตัวนี้ดีอยู่แล้ว แค่ใส่หัวฉีด เปลี่ยนโฉมใหม่ ลดต้นทุน แต่เพิ่มราคาขายเป็นไปได้ง่ายสุด เพราะอะไหล่บางตัวในเครื่องยนต์ใช้ร่วมกับรถใหญ่ญี่ปุ่นอยู่
     ตัวอย่างเช่นวาล์ว ซีลก้านวาล์วถ้าดูที่คู่มือราคาอะไหล่ที่ศูนย์จะเป็นของcbr400  รองรับอะไหล่ง่ายกว่าเปลี่ยนเครื่องใหม่

4. ข่าวดีก็คือคิดว่าออกมาแน่กลางปีนี้ จ่อคิวจาก super cub110 i สไตล์ย้อนยุคนิดๆแต่ไฮเทคเครื่องเดียวกับเวฟ110ไอ ไม่แน่ใจว่ามาแทนดรีมมั้ย ซึ่งตัวนี้ขายที่ญี่ปุ่นแล้ว(รอดูตอนมอเตอร์โชว์อีกที)   

นี่แค่พูดตามข้อมูลที่มีอยู่และความน่าจะเป็น โปรดใช้วิจารณญาณในการรับรู้ข้อมูล ถ้าผิดพลาดก็ขออภัยด้วย
คำแนะนำควรหาที่มีอยู่ไว้ใช้ดีกว่าเพราะของใหม่หาใช่ว่าจะดีเสมอไป และที่สำคัญแพงด้วย รุ่นใหม่ลดต้นทุนในการผลิตอาจจะเปราะบางและไม่ทนทานก็ได้ คิดดูเอาเองนะ

""""""""""""""""""""""""""!nwบุmsชุDvาว....................................................
 l9 l9 l9 l9 l9 l9 l9 l9 l9
บันทึกการเข้า

biker 1500
หักซ้าย หักขวา ไม่มีล้ม
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 174


« ตอบ #45 เมื่อ: 28, มีนาคม 2010, 03:43:01 AM »

 :D  แค่ตัวเดิมนี่จะว่าไป ก็เปราะเหมือนกันนะครับ ยิ่งลดต้นทุนกับตัวใหม่ ๆ น่ากลัวว่าจะต้องดูแลกันน่าดู  ตัวเก่ายังดูแลดีแล้ว ตัวใหม่คงต้องดูแลเพิ่มเข้าไปอีกมั้งเนี่ยะ
บันทึกการเข้า
En_golf
ตามมาเร็ว เดี๋ยวจะพาไปออกทริป
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 410


[URL=http://img192.imageshack.us/i/43b6931.jpg/][I


อีเมล์
« ตอบ #46 เมื่อ: 29, มีนาคม 2010, 12:21:50 AM »

รู้เขาหรอก แต่เต็มใจให้ หรอก  / :Dคิดออกและ/   :Pนายว่าไงน้าๆๆๆๆๆๆ/    !weedwiewหมอรู้หมอเรียนมา/    ???ทำงี้ได้ไงง้า เขางงนะ   /   !hoehoeละครจบทั้งน้ำตา
บันทึกการเข้า
biker 1500
หักซ้าย หักขวา ไม่มีล้ม
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 174


« ตอบ #47 เมื่อ: 29, มีนาคม 2010, 06:24:37 AM »

ไม่มีอะไรที่ยาวนานเกินไปในความเป็นธุรกิจ เคยเห็นรถตัวไหนในเมืองไทยบ้างมั้ยครับ ที่ ผลิตกันยืนยาวมาเป็น 10 ปี แทบไม่มีหรือไม่มีเลย ไม่ว่าจะเป็นเหตุผลว่า เลิกผลิต รุ่นคาร์บู  หรือผลิตหัวฉีด  ซีบีอาร์เรานี่ ลองคิดดูกี่ปีมาแล้ว รุ่นนี้ โฉมนี้ เครื่องนี้   ตั้งแต่ ปี 2000 ได้มั้ง พูดง่าย ๆ ปีนี้ก็น่าจะ 10 ปี มาแล้ว ถ้าจะเลิกผลิตก็ไม่เห็นแปลก  ถึงแม้จะบอกว่า ก็ไม่เห็นเปลี่ยนแนวซักที  ผลิตมาตั้งนาน ไม่เห็นเปลี่ยนเครื่องเปลี่ยนโฉมเลย  ไม่รู้จะทำรุ่นไหนออกมาล่ะมั้ง ถึงผลิตมาได้ตั้ง 10 ปี ไม่ว่าเหตุผลจะเป็นอย่างไรก็ตาม มันก็นานพอดูนะ กับ 10 ปี เนี่ยะ เพียงแต่ผู้บริโภคอย่างเรา ๆ ต้องการรถที่ตอบสนองความต้องการของเราได้ อุปกรณ์ที่ติดรถมา ไม่หรูหราแต่ใช้งานดี  และที่สำคัญ ราคา กับ ซี ๆ
และคุณภาพรถ หลาย ๆ อย่างรวมกัน ถ้าไม่แพงจนเกินไป ก็สามารถทำการตลาดได้ไม่มาก ก็น้อย จะยี่ห้ออะไรก็ตาม ผมคิดว่า ดีทั้งนั้นแหละครับ ขอให้ออกมาแบบมีคุณภาพก็พอ
บันทึกการเข้า
taloso
ขับช้า แต่อย่าให้ใครแซง
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 70


« ตอบ #48 เมื่อ: 29, มีนาคม 2010, 03:01:56 PM »

ผมลองไปหาข้อมูลมาดูแล้วครับลองไปดูที่ผมทำสีแดงไว้นะ
   
ยักษ์สองล้อ “ฮอนด้า” ปรับแผนผลิตและสินค้า รับมือเศรษฐกิจ ต้นทุนผลิตพุ่งและตลาดรถจักรยานยนต์เปลี่ยน เผยราคาวัตถุดิบเหล็ก แบตเตอรี่ อลูมิเนียม และพลาสติก ปรับเพิ่มใกล้จุดสูงสุดอีกครั้ง เร่งจับมือซัพพลายเออร์คุมไม่ให้บาน ขณะที่เดือนมีนาคมนี้รถฮอนด้าทุกรุ่น เปลี่ยนเป็นแบบหัวฉีด PGM-FI หมด และเลิกผลิตรถสร้างชื่อ 3 รุ่น หันมาลุยตลาดรถแบบเอ.ที. ที่ปีนี้ความนิยมพุ่งแซงเกียร์ธรรมดา จึงเปิดตัว “เวฟ110 ไอ เอ.ที.” เป็นครั้งแรกของรถครอบครัวรองรับ

นายเซนจิโร่ ซากุราอิ
ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด

       นายเซนจิโร่ ซากุราอิ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด ผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์อันดับหนึ่งของไทย เปิดเผยว่า หลังจากในช่วง 3 ไตรมาสแรกของปี 2552 ที่ผ่านมา ตลาดลดลงอย่างมาก จากปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลก แต่นับจากช่วงไตรามาสสุดท้ายเป็นต้นมา ทิศทางตลาดรถจักรยานยนต์ที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้เชื่อว่าในปี 2553 นี้ แนวโน้มตลาดรถจักรยานยนต์ไทยจะฟื้นตัวจากปีที่แล้วแน่นอน
       
       “จาก ทิศทางเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวชัดเจนในปีนี้ และรัฐบาลได้มีการประกาศตัวเลขจีดีพีจะขยายตัว 3-5% ทำให้คาดว่าตลาดรถจักรยานยนต์ไทยในปี 2553 น่าจะปรับเพิ่มขึ้นประมาณ 10% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา หรือมีตัวเลขจดทะเบียนประมาณ 1.68 ล้านคัน โดยฮอนด้าตั้งเป้าการขายไว้ที่ 1.15 ล้านคัน ซึ่งทั้งหมดเป็นการประภาพรวมจากเศรษฐกิจและความเสี่ยงจากปัญหาทางการเมือง ไว้แล้ว แต่ฮอนด้ายังหวังให้การเมืองสงบเรียบร้อยด้วยดี เพื่อที่จะช่วยให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวมากกว่านี้ “
       
       นายซากุราอิกล่าวว่า ส่วนการที่เศรษฐกิจปรับตัวขึ้นส่งผลกระทบต่อต้นทุนการผลิตเช่นกัน โดยเฉพาะต้นทุนหลักอย่างเหล็ก อลูมิเนียม แบตเตอรี่ และพลาสติก ที่เริ่มมีการปรับขึ้นมาตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ แม้ปัจจุบันต้นทุนจะยังไม่สูงเท่ากับจุดสูงสุดที่เคยทำไว้ในปี 2551 แต่จากแนวโน้มเชือว่าจะยังคงปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในปีนี้ และจะส่งผลต่อต้นทุนการผลิตเป็นอย่างมาก
       
       “เหตุนี้ฮอนด้าจึงร่วมมือกับซัพพลายเออร์ ในการบริหารจัดการและควบคุมไม่ให้ต้นทุนสูงกว่าราคาจำหน่าย พร้อมกับพัฒนากระบวนการผลิตให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด และช่วยลดต้นทุนในการผลิต ทำให้ฮอนด้ายังสามารถรับมือกับต้นทุนวัตุดิบที่สูงขึ้นได้ โดยไม่ต้องโยนภาระให้กับลูกค้าผู้ซื้อรถ”
       
       นอกจากเรื่องของต้นทุนการผลิตแล้ว ในส่วนสภาพตลาดรถจักรยานยนต์มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น ทำให้ผู้บริโภคหันมาพิจารณารถที่มีความประหยัดมากขึ้น หรือแนวโน้มตลาดที่ให้ความนิยมรถจักรยานยนต์แบบเกียร์ออโตเมติก หรือเอ.ที.(AT) ที่คาดว่ารถแบบเอ.ที.จะเติบ โตขึ้นจาก 46.5% ในปี 2552 เป็น 54% ในปี 2553 เป็นต้น
       
       “ดังนั้นฮอนด้าจึงมีนโยบายที่จะนำระบบหัวฉีด ที่จะช่วยในเรื่องความประหยัดน้ำมัน และลดมลพิษด้านสิ่งแวดล้อม มาใช้ในรถจักรยานยนต์ฮอนด้าทุกรุ่น และได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา และ ในเดือนมีนาคมนี้เป็นต้นไป รถฮอนด้าจะใช้ระบบหัวฉีด PGM-FI หมดทุกรุ่น และฮอนด้ากำลังจะยกเลิกการผลิตรถจักรยานยนต์ 3 รุ่น ได้แก่ ฮอนด้า เวฟ100 ฮอนด้า โซนิค และรุ่นดรีม ตั้งแต่เดือนมีนาคมเป็นต้นไปเช่นกัน” นายซากุราอิกล่าวและว่า
       
       ทั้งนี้สาเหตุที่ยกเลิกการผลิตรถทั้ง 3 รุ่น มาจากสภาพตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป โดยรุ่นเวฟ100 ฮอนด้าจะเลิกผลิตตั้งแต่แนะนำรุ่นเวฟ 110ไอ ระบบหัวฉีด PGM-FI แล้ว แต่เนื่องจากเศรษฐกิจชะลอตัว ทำให้ตัวแทนจำหน่ายขอให้คงตัวนี้ไว้สักระยะ บริษัทฯ จึงชะลอแผนมา 1 ปี และเดือนมีนาคมนี้ก็จะยกเลิกอย่างเป็นทางการ ขณะที่รุ่นโซนิคตลาดมีความต้องการลดลงอย่างต่อเนื่อง เหลือเพียงเฉพาะในกรุงเทพฯ หรือเมืองใหญ่เท่านั้น เลยตัดสินใจยุติการผลิตรถรุ่นนี้ไปในที่สุด และกำลังศึกษานำรุ่นใหม่ที่ตรงกับความต้องการลูกค้ามาทำตลาดแทน แต่ก็ยังให้ความรู้สึกขับสนุกเช่นเดิม ส่วนรุ่นดรีมจะหยุดการผลิตสักระยะ และอยู่ในระหว่างการพิจารณาว่าจะนำมาผลิตใหม่ให้ตรงกับตลาดได้หรือไม่

ภาพและข้อมูลจาก : ASTV
บันทึกการเข้า
taloso
ขับช้า แต่อย่าให้ใครแซง
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 70


« ตอบ #49 เมื่อ: 29, มีนาคม 2010, 03:07:34 PM »

จากข้อมูลที่ได้มาผมคาดว่า CBR 150 จะไม่ยกเลิกการผลิตแต่เปลี่ยนเป็นระบบหัวฉีดแทน
มีใครคิดเหมือนผมไหม
บันทึกการเข้า
navsliptos
ตามมาเร็ว เดี๋ยวจะพาไปออกทริป
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 306


navs_slipto@hotmail.com
อีเมล์
« ตอบ #50 เมื่อ: 29, มีนาคม 2010, 04:48:56 PM »

 !ohno !ohno อย่าเพิ่งเลิกผลิตเหอะ ยังเก็บเงินไม่ครบเลย   !dead :(
บันทึกการเข้า
biker 1500
หักซ้าย หักขวา ไม่มีล้ม
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 174


« ตอบ #51 เมื่อ: 30, มีนาคม 2010, 03:45:21 AM »

 :D  ก็หาซื้อมือ 2 ก็ได้นี่ครับ  ถึงเลิกผลิต ก็คงยังมีป้ายแดงค้าง สต๊อก หรือไม่ก็ยังขายไม่หมดอยู่ ล่ะมั้ง ถ้าหากเลิกผลิต คาร์บู หากมีหัวฉีด ก็ยังซื้อได้ล่ะหากไม่คิดมาก
!ohno !ohno อย่าเพิ่งเลิกผลิตเหอะ ยังเก็บเงินไม่ครบเลย   !dead :(
บันทึกการเข้า
puk/love/cbr
ตามมาเร็ว เดี๋ยวจะพาไปออกทริป
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 413



อีเมล์
« ตอบ #52 เมื่อ: 30, มีนาคม 2010, 04:12:25 AM »

พรุ่งนี้จะซื้อเเล้ว
วันนี้หารถไม่มีเลย
เซ็งเสียใจมาก
อยากได้มานานอดใจมานาน
รถหมดตลาดเเล้ว
 :-X !sadsad :'( cryyyyy !ohno !cry! l12
บันทึกการเข้า
sonic6233
ความดีไม่มีขายอยากได้ต้องทำ
หักซ้าย หักขวา ไม่มีล้ม
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 269


ชื่อ "เบ๊นซ์" ครับ

rockman3120@dororo.keroro.com
« ตอบ #53 เมื่อ: 30, มีนาคม 2010, 05:35:40 AM »

ยังไง cbr 150 ก็เป็น รถสปอต รุ่นปัจจุบัน ของ ฮอนด้ามอเตอร์ เพราะ งั้ นผมว่าเขาไม่มีทางโละ รถสปอต ทิ้ง หรอกครับ  เพราะ ราคา สูง และเป็นรถฟุ่ม เฟือย ทำรายได้ดีให้ กับ บริษัท  ถ้าออกตัวใหม่มายังพอเชื่อได้  แต่โละ รถ สปอต ทิ้งเนี่ย เชื่อยาก   บริษัทอื่น ผลิตรถ บ้านๆ ขายไม่ออก โถมไปเขายังไม่โละทิ้งเลยไม่อยากจะเอ่ย  นานๆจะเห็นขายได้ซักคัน       ความเห็นส่วนตัวนะจ๊ะ
บันทึกการเข้า

Pippy
I'm CBRsCLUB
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 516



อีเมล์
« ตอบ #54 เมื่อ: 31, มีนาคม 2010, 12:03:06 AM »

ที่ชัดเจนตอนนี้น่าจะเป็นรุ่น VFR1200F

เป็นตัว 1237 cc4สูบ 4จังหวะ 16 วาวล์ หัวฉีด

ราคาน่าจะรถเก๋งป้ายแดงคันนึงอ่ะ
บันทึกการเข้า

biker 1500
หักซ้าย หักขวา ไม่มีล้ม
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 174


« ตอบ #55 เมื่อ: 31, มีนาคม 2010, 04:55:19 AM »

เอ้า ข้ามไปรถญี่ปุ่น superbike แล้วหรอครับ      !goodjob         
ที่ชัดเจนตอนนี้น่าจะเป็นรุ่น VFR1200F

เป็นตัว 1237 cc4สูบ 4จังหวะ 16 วาวล์ หัวฉีด

ราคาน่าจะรถเก๋งป้ายแดงคันนึงอ่ะ
บันทึกการเข้า
jeekung01
ขับช้า แต่อย่าให้ใครแซง
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 143


อยากเป็นเจ้าของ CBR สักคัน


อีเมล์
« ตอบ #56 เมื่อ: 31, มีนาคม 2010, 05:14:41 AM »

พรุ่งนี้จะซื้อเเล้ว
วันนี้หารถไม่มีเลย
เซ็งเสียใจมาก
อยากได้มานานอดใจมานาน
รถหมดตลาดเเล้ว
 :-X !sadsad :'( cryyyyy !ohno !cry! l12

ที่ศูนย์ปราจีนเหลือ สีดำอยู่ 1 คันคร้าบ

เพื่อนผมเพิ่งไปออกมาเมื่อต้นเดือนได้สีดำมา ทีแรกจะเอาสีแดง เขาบอกว่าเขาเลิกผลิตไปแล้ว ที่ศูนย์เหลือสีดำอยู่สองคันคร้าบ เลยได้จัดสีดำมาแทน 1 ลำ
บันทึกการเข้า



ขอบคุณผู้สนับสนุน
e-sanjazzclub
นางรองเจริญยางยนต์

http://www.cbr150club.com/board/index.php?topic=16962.0
biker 1500
หักซ้าย หักขวา ไม่มีล้ม
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 174


« ตอบ #57 เมื่อ: 31, มีนาคม 2010, 05:17:00 AM »

 :D  ถ้าไม่ห่วงเรื่องการเดินทาง หรือค่าใช้จ่าย ผมว่าเดินทางไปซื้อรถ  ตจว    ผมก็ว่าดีนะ  เพราะยังน่าจะมีเหลืออยู่บ้างหละ
บันทึกการเข้า
suchet
ถึงจะเล็ก.....แต่ก็จะโต....ครายจะทามมายยย
ตามมาเร็ว เดี๋ยวจะพาไปออกทริป
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 415


คิดให้ใหญ่ ...ตั้งใจ มุ่งมั้น แน่วแน่ ยังไงก็ทำได้

chet_hondapiya@hotmaill.com
อีเมล์
« ตอบ #58 เมื่อ: 31, มีนาคม 2010, 08:04:45 PM »

ผมลองไปหาข้อมูลมาดูแล้วครับลองไปดูที่ผมทำสีแดงไว้นะ
   
ยักษ์สองล้อ “ฮอนด้า” ปรับแผนผลิตและสินค้า รับมือเศรษฐกิจ ต้นทุนผลิตพุ่งและตลาดรถจักรยานยนต์เปลี่ยน เผยราคาวัตถุดิบเหล็ก แบตเตอรี่ อลูมิเนียม และพลาสติก ปรับเพิ่มใกล้จุดสูงสุดอีกครั้ง เร่งจับมือซัพพลายเออร์คุมไม่ให้บาน ขณะที่เดือนมีนาคมนี้รถฮอนด้าทุกรุ่น เปลี่ยนเป็นแบบหัวฉีด PGM-FI หมด และเลิกผลิตรถสร้างชื่อ 3 รุ่น หันมาลุยตลาดรถแบบเอ.ที. ที่ปีนี้ความนิยมพุ่งแซงเกียร์ธรรมดา จึงเปิดตัว “เวฟ110 ไอ เอ.ที.” เป็นครั้งแรกของรถครอบครัวรองรับ

นายเซนจิโร่ ซากุราอิ
ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด

       นายเซนจิโร่ ซากุราอิ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด ผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์อันดับหนึ่งของไทย เปิดเผยว่า หลังจากในช่วง 3 ไตรมาสแรกของปี 2552 ที่ผ่านมา ตลาดลดลงอย่างมาก จากปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลก แต่นับจากช่วงไตรามาสสุดท้ายเป็นต้นมา ทิศทางตลาดรถจักรยานยนต์ที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้เชื่อว่าในปี 2553 นี้ แนวโน้มตลาดรถจักรยานยนต์ไทยจะฟื้นตัวจากปีที่แล้วแน่นอน
       
       “จาก ทิศทางเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวชัดเจนในปีนี้ และรัฐบาลได้มีการประกาศตัวเลขจีดีพีจะขยายตัว 3-5% ทำให้คาดว่าตลาดรถจักรยานยนต์ไทยในปี 2553 น่าจะปรับเพิ่มขึ้นประมาณ 10% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา หรือมีตัวเลขจดทะเบียนประมาณ 1.68 ล้านคัน โดยฮอนด้าตั้งเป้าการขายไว้ที่ 1.15 ล้านคัน ซึ่งทั้งหมดเป็นการประภาพรวมจากเศรษฐกิจและความเสี่ยงจากปัญหาทางการเมือง ไว้แล้ว แต่ฮอนด้ายังหวังให้การเมืองสงบเรียบร้อยด้วยดี เพื่อที่จะช่วยให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวมากกว่านี้ “
       
       นายซากุราอิกล่าวว่า ส่วนการที่เศรษฐกิจปรับตัวขึ้นส่งผลกระทบต่อต้นทุนการผลิตเช่นกัน โดยเฉพาะต้นทุนหลักอย่างเหล็ก อลูมิเนียม แบตเตอรี่ และพลาสติก ที่เริ่มมีการปรับขึ้นมาตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ แม้ปัจจุบันต้นทุนจะยังไม่สูงเท่ากับจุดสูงสุดที่เคยทำไว้ในปี 2551 แต่จากแนวโน้มเชือว่าจะยังคงปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในปีนี้ และจะส่งผลต่อต้นทุนการผลิตเป็นอย่างมาก
       
       “เหตุนี้ฮอนด้าจึงร่วมมือกับซัพพลายเออร์ ในการบริหารจัดการและควบคุมไม่ให้ต้นทุนสูงกว่าราคาจำหน่าย พร้อมกับพัฒนากระบวนการผลิตให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด และช่วยลดต้นทุนในการผลิต ทำให้ฮอนด้ายังสามารถรับมือกับต้นทุนวัตุดิบที่สูงขึ้นได้ โดยไม่ต้องโยนภาระให้กับลูกค้าผู้ซื้อรถ”
       
       นอกจากเรื่องของต้นทุนการผลิตแล้ว ในส่วนสภาพตลาดรถจักรยานยนต์มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น ทำให้ผู้บริโภคหันมาพิจารณารถที่มีความประหยัดมากขึ้น หรือแนวโน้มตลาดที่ให้ความนิยมรถจักรยานยนต์แบบเกียร์ออโตเมติก หรือเอ.ที.(AT) ที่คาดว่ารถแบบเอ.ที.จะเติบ โตขึ้นจาก 46.5% ในปี 2552 เป็น 54% ในปี 2553 เป็นต้น
       
       “ดังนั้นฮอนด้าจึงมีนโยบายที่จะนำระบบหัวฉีด ที่จะช่วยในเรื่องความประหยัดน้ำมัน และลดมลพิษด้านสิ่งแวดล้อม มาใช้ในรถจักรยานยนต์ฮอนด้าทุกรุ่น และได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา และ ในเดือนมีนาคมนี้เป็นต้นไป รถฮอนด้าจะใช้ระบบหัวฉีด PGM-FI หมดทุกรุ่น และฮอนด้ากำลังจะยกเลิกการผลิตรถจักรยานยนต์ 3 รุ่น ได้แก่ ฮอนด้า เวฟ100 ฮอนด้า โซนิค และรุ่นดรีม ตั้งแต่เดือนมีนาคมเป็นต้นไปเช่นกัน” นายซากุราอิกล่าวและว่า
       
       ทั้งนี้สาเหตุที่ยกเลิกการผลิตรถทั้ง 3 รุ่น มาจากสภาพตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป โดยรุ่นเวฟ100 ฮอนด้าจะเลิกผลิตตั้งแต่แนะนำรุ่นเวฟ 110ไอ ระบบหัวฉีด PGM-FI แล้ว แต่เนื่องจากเศรษฐกิจชะลอตัว ทำให้ตัวแทนจำหน่ายขอให้คงตัวนี้ไว้สักระยะ บริษัทฯ จึงชะลอแผนมา 1 ปี และเดือนมีนาคมนี้ก็จะยกเลิกอย่างเป็นทางการ ขณะที่รุ่นโซนิคตลาดมีความต้องการลดลงอย่างต่อเนื่อง เหลือเพียงเฉพาะในกรุงเทพฯ หรือเมืองใหญ่เท่านั้น เลยตัดสินใจยุติการผลิตรถรุ่นนี้ไปในที่สุด และกำลังศึกษานำรุ่นใหม่ที่ตรงกับความต้องการลูกค้ามาทำตลาดแทน แต่ก็ยังให้ความรู้สึกขับสนุกเช่นเดิม ส่วนรุ่นดรีมจะหยุดการผลิตสักระยะ และอยู่ในระหว่างการพิจารณาว่าจะนำมาผลิตใหม่ให้ตรงกับตลาดได้หรือไม่

ภาพและข้อมูลจาก : ASTV
ผมลองไปหาข้อมูลมาดูแล้วครับลองไปดูที่ผมทำสีแดงไว้นะ
   
ยักษ์สองล้อ “ฮอนด้า” ปรับแผนผลิตและสินค้า รับมือเศรษฐกิจ ต้นทุนผลิตพุ่งและตลาดรถจักรยานยนต์เปลี่ยน เผยราคาวัตถุดิบเหล็ก แบตเตอรี่ อลูมิเนียม และพลาสติก ปรับเพิ่มใกล้จุดสูงสุดอีกครั้ง เร่งจับมือซัพพลายเออร์คุมไม่ให้บาน ขณะที่เดือนมีนาคมนี้รถฮอนด้าทุกรุ่น เปลี่ยนเป็นแบบหัวฉีด PGM-FI หมด และเลิกผลิตรถสร้างชื่อ 3 รุ่น หันมาลุยตลาดรถแบบเอ.ที. ที่ปีนี้ความนิยมพุ่งแซงเกียร์ธรรมดา จึงเปิดตัว “เวฟ110 ไอ เอ.ที.” เป็นครั้งแรกของรถครอบครัวรองรับ

นายเซนจิโร่ ซากุราอิ
ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด

       นายเซนจิโร่ ซากุราอิ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด ผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์อันดับหนึ่งของไทย เปิดเผยว่า หลังจากในช่วง 3 ไตรมาสแรกของปี 2552 ที่ผ่านมา ตลาดลดลงอย่างมาก จากปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลก แต่นับจากช่วงไตรามาสสุดท้ายเป็นต้นมา ทิศทางตลาดรถจักรยานยนต์ที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้เชื่อว่าในปี 2553 นี้ แนวโน้มตลาดรถจักรยานยนต์ไทยจะฟื้นตัวจากปีที่แล้วแน่นอน
       
       “จาก ทิศทางเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวชัดเจนในปีนี้ และรัฐบาลได้มีการประกาศตัวเลขจีดีพีจะขยายตัว 3-5% ทำให้คาดว่าตลาดรถจักรยานยนต์ไทยในปี 2553 น่าจะปรับเพิ่มขึ้นประมาณ 10% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา หรือมีตัวเลขจดทะเบียนประมาณ 1.68 ล้านคัน โดยฮอนด้าตั้งเป้าการขายไว้ที่ 1.15 ล้านคัน ซึ่งทั้งหมดเป็นการประภาพรวมจากเศรษฐกิจและความเสี่ยงจากปัญหาทางการเมือง ไว้แล้ว แต่ฮอนด้ายังหวังให้การเมืองสงบเรียบร้อยด้วยดี เพื่อที่จะช่วยให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวมากกว่านี้ “
       
       นายซากุราอิกล่าวว่า ส่วนการที่เศรษฐกิจปรับตัวขึ้นส่งผลกระทบต่อต้นทุนการผลิตเช่นกัน โดยเฉพาะต้นทุนหลักอย่างเหล็ก อลูมิเนียม แบตเตอรี่ และพลาสติก ที่เริ่มมีการปรับขึ้นมาตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ แม้ปัจจุบันต้นทุนจะยังไม่สูงเท่ากับจุดสูงสุดที่เคยทำไว้ในปี 2551 แต่จากแนวโน้มเชือว่าจะยังคงปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในปีนี้ และจะส่งผลต่อต้นทุนการผลิตเป็นอย่างมาก
       
       “เหตุนี้ฮอนด้าจึงร่วมมือกับซัพพลายเออร์ ในการบริหารจัดการและควบคุมไม่ให้ต้นทุนสูงกว่าราคาจำหน่าย พร้อมกับพัฒนากระบวนการผลิตให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด และช่วยลดต้นทุนในการผลิต ทำให้ฮอนด้ายังสามารถรับมือกับต้นทุนวัตุดิบที่สูงขึ้นได้ โดยไม่ต้องโยนภาระให้กับลูกค้าผู้ซื้อรถ”
       
       นอกจากเรื่องของต้นทุนการผลิตแล้ว ในส่วนสภาพตลาดรถจักรยานยนต์มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น ทำให้ผู้บริโภคหันมาพิจารณารถที่มีความประหยัดมากขึ้น หรือแนวโน้มตลาดที่ให้ความนิยมรถจักรยานยนต์แบบเกียร์ออโตเมติก หรือเอ.ที.(AT) ที่คาดว่ารถแบบเอ.ที.จะเติบ โตขึ้นจาก 46.5% ในปี 2552 เป็น 54% ในปี 2553 เป็นต้น
       
       “ดังนั้นฮอนด้าจึงมีนโยบายที่จะนำระบบหัวฉีด ที่จะช่วยในเรื่องความประหยัดน้ำมัน และลดมลพิษด้านสิ่งแวดล้อม มาใช้ในรถจักรยานยนต์ฮอนด้าทุกรุ่น และได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา และ ในเดือนมีนาคมนี้เป็นต้นไป รถฮอนด้าจะใช้ระบบหัวฉีด PGM-FI หมดทุกรุ่น และฮอนด้ากำลังจะยกเลิกการผลิตรถจักรยานยนต์ 3 รุ่น ได้แก่ ฮอนด้า เวฟ100 ฮอนด้า โซนิค และรุ่นดรีม ตั้งแต่เดือนมีนาคมเป็นต้นไปเช่นกัน” นายซากุราอิกล่าวและว่า
       
       ทั้งนี้สาเหตุที่ยกเลิกการผลิตรถทั้ง 3 รุ่น มาจากสภาพตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป โดยรุ่นเวฟ100 ฮอนด้าจะเลิกผลิตตั้งแต่แนะนำรุ่นเวฟ 110ไอ ระบบหัวฉีด PGM-FI แล้ว แต่เนื่องจากเศรษฐกิจชะลอตัว ทำให้ตัวแทนจำหน่ายขอให้คงตัวนี้ไว้สักระยะ บริษัทฯ จึงชะลอแผนมา 1 ปี และเดือนมีนาคมนี้ก็จะยกเลิกอย่างเป็นทางการ ขณะที่รุ่นโซนิคตลาดมีความต้องการลดลงอย่างต่อเนื่อง เหลือเพียงเฉพาะในกรุงเทพฯ หรือเมืองใหญ่เท่านั้น เลยตัดสินใจยุติการผลิตรถรุ่นนี้ไปในที่สุด และกำลังศึกษานำรุ่นใหม่ที่ตรงกับความต้องการลูกค้ามาทำตลาดแทน แต่ก็ยังให้ความรู้สึกขับสนุกเช่นเดิม ส่วนรุ่นดรีมจะหยุดการผลิตสักระยะ และอยู่ในระหว่างการพิจารณาว่าจะนำมาผลิตใหม่ให้ตรงกับตลาดได้หรือไม่

ภาพและข้อมูลจาก : ASTV
!goodjob !goodjob !goodjob
บันทึกการเข้า

Pippy
I'm CBRsCLUB
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 516



อีเมล์
« ตอบ #59 เมื่อ: 31, มีนาคม 2010, 08:25:02 PM »

งานมอเตอร์โชว์ผมว่าคงไม่มี cbr รุ่น 150 หรอกคับ
แต่เหนตัว 1000cc มาสองตัวหนิ
บันทึกการเข้า

หน้า: 1 2 [3] 4   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  



หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.101 วินาที กับ 24 คำสั่ง