CBRsCLUB
 
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 



หน้า: [1] 2   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: มีคำถามมาให้ปวดหัวเล่นๆครับ (ถ้าตอบจริงจังจะดีมาก)  (อ่าน 9075 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
skull
หักซ้าย หักขวา ไม่มีล้ม
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 169


อีเมล์
« เมื่อ: 10, เมษายน 2013, 06:35:46 PM »

"ใช่อย่างที่กิมบอกครับน้าแกรู้จริงก็ต้องตอบตามนั้น
แต่ช่างห่วยๆมักบอกยิ่งบางยิ่งวิ่ง เพราะมันไม่เคยศึกษาเกี่ยวกับคำว่า Lambda A:F Ratio หรืออะไรที่เกี่ยวข้องพวกนี้แน่นอน
การจูนให้หนาแล้ววิ่งมันยาก แต่ถ้าทำได้จะได้ม้ามาเพียบและเหนียว

สาเหตุที่ยากคือการยก-เปิดคันเร่ง รวมทั้งความเร็วในการกวาดของรอบเครื่องมันสัมพันธ์กันหรือเปล่า
ปัญหานี้ในระบบหัวฉีดแก้ไขง่ายมากโดยการแก้Map แต่กลับยากโคตรในระบบจ่ายน้ำมันแบบคาร์บิวฯ
ทางแก้คือเปลี่ยนลักษณะของเข็มเร่ง หรือระดับการยกเข็มเร่งเป็นการแก้ที่ตรงประเด็น
แต่ยากเย็นเข็นใจในการจูนให้พอดีกับการขับของแต่ละคน

ลุงของกิมดังได้มีคนชื่มชมทั่วประเทศเพราะตรงนี้แหละครับ ไม่งั้นไม่อยู่ยงจนทุกวันนี้หรอก
ความคิดที่ถูกต้อง จะส่งไปถึงการทำที่ถูกต้อง
"

"ลูก70 B:S Ratio(อัตราส่วนของความโตกับช่วงชัก) อยู่ที่ 1.48:1เท่านั้น ถือว่าไม่มาก
ในรถสปอร์ทระดับ600cc. เรโชนี้สูงถึง 1.6:1เชียวนะครับ

ถ้าใช้ความเร็วสูงสุดไม่มากก็ยิ่งสบาย
เพราะจะยิ่งทำให้ขับขี่ง่ายขึ้น สนุกขึ้น ประหยัดขึ้น ที่สำคัญ "ทนกว่าลูกเล็กๆ" งงไหมล่ะ?
สามารถเรียกกำลังจากรอบต่ำๆที่เกียร์6ได้โดยไม่ต้องลดเกียร์เพื่อเรียกรอบ
สามารถสร้างPowerbandแบบFlattorqueได้ง่ายกว่าลูกเล็กๆ

ดังนั้นจะเล่นไซส์70ไปเลยก็ได้ครับ
เสียอย่างเดียวเรื่องค่าใช้จ่ายในการทำที่สูงกว่า เพราะต้องตีปลอกสูบใหม่
"


จากข้อความที่ผมไปอ่านเจอมาที่เค้าคุยเกี่ยวกับเรื่องการแต่งแรงกันเมื่อนานมาแล้ว

ทำให้ผมเกิดคำถามมากขึ้นในใจในหลายๆเรื่อง เช่น

"ลูก70 B:S Ratio(อัตราส่วนของความโตกับช่วงชัก) อยู่ที่ 1.48:1เท่านั้น ถือว่าไม่มาก
ในรถสปอร์ทระดับ600cc. เรโชนี้สูงถึง 1.6:1เชียวนะครับ

ถ้าใช้ความเร็วสูงสุดไม่มากก็ยิ่งสบาย
เพราะจะยิ่งทำให้ขับขี่ง่ายขึ้น สนุกขึ้น ประหยัดขึ้น ที่สำคัญ "ทนกว่าลูกเล็กๆ" งงไหมล่ะ?
สามารถเรียกกำลังจากรอบต่ำๆที่เกียร์6ได้โดยไม่ต้องลดเกียร์เพื่อเรียกรอบ
สามารถสร้างPowerbandแบบFlattorqueได้ง่ายกว่าลูกเล็กๆ
"


จากประโยคข้างต้นที่ผมอ่านผมตีความได้ราวๆนี้

Powerband = แรงม้า หรือ แรงบิด หว่า (ไม่แน่ใจ)

Flattorque = น่าจะเกี่ยวข้องกับแรงบิด

การทำลูกโตใน cbr จะสามารถสร้างแรงบิดได้สูงในรอบต่ำโดยที่ไม่เหมือนลูกเล็กคือ

ต้องใช้รอบเครื่องสูงมาสร้างแรงบิดแทน เหมือนรถ ครุยเซอร์ กับ รถสปอต ที่เน้นรอบต่ำกับเน้นรอบสูง

แล้วถ้ารถเน้นรอบสูงแบบ cbr มาขยายลูกสูบเหมือนที่เค้าคุยกัน มันจะดูง่ายไปหน่อยรึเปล่า

ไหนจะมีเรื่องกำลังอัดเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ผมอ่านแล้วผมก็เลยงงครับ แล้วผลลัพธ์มันจะออกมาเป็นอย่างไร

รอบต่ำมีแรง แล้วรอบสูงก็แรงมากตาม cc ที่เพิ่มเข้ามา

หรือ ได้แรงรอบต่ำแต่จะเสียรอบสูงไป 

แล้วอีกเรื่อง  Lambda A:F Ratio นี่อ่านแล้วน่าจะเกี่ยวกับส่วนผสมน้ำมัน

และ การจูนให้หนาแล้ววิ่งมันยาก แต่ถ้าทำได้จะได้ม้ามาเพียบและเหนียว

จากประโยคนี้ก็ทำให้ผมสงสัย เพราะสิ่งที่ผมรู้คือ ถ้าน้ำมันหนาจะมีแรงในช่วงรอบเครื่องต่ำมากเพราะจุดระเบิดได้รุนแรง

แล้วน้ำมันบางจะถูกใช้ในรอบสูงๆเพราะถ้าหนาไปจะทำให้เผาไหม้ไม่หมด (ตามที่ผมเข้าใจ)

และประโยคนี้

"จังหวะ การเปิด-ปิด ของวาล์วไอดี ในจังหวะดูดจะมีผลกับความดันในกระบอกสูบ

 ถ้าวาล์วไอดีปิด ที่ศูนย์ตายล่าง พอดี เมื่อลูกสูบ เลื่อนขึ้นก็เริ่มอัดไอดี ที่อยู่ในกระบอกสูบทันที 

ความดันที่ได้ก็จะสูงเพราะมีไอดีอยู่เต็มกระบอกสูบ แต่ในความเป็นจริงวาล์วไอดี ไม่ได้ปิดทันทีที่ศูนย์ตายล่าง

แต่ยังคงเปิดต่อไปอีกเล็กน้อย(องศาวาล์วไอดียิ่งมากยิ่งเปิดนานขี้น)

พอลูกสูบเคลื่อนที่ขึ้นก็จะอัดไอดีที่ดูดเข้าไปแล้วกลับออกมาทางวาล์วไอดีที่ยังไม่ปิดสนิท

แต่เหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นเฉพาะที่รอบเครื่องยนต์ต่ำเท่านั้น เพราะไอดียังไหลได้ไม่เร็ว ก็ไม่มีโมเมนตัมมากพอ

ที่จะไหลผ่านวาล์วไอดีเข้าไปในกระบอกสูบขณะที่ลูกสูบกำลังเลื่อนขึ้น เมื่อลูกสูบเคลื่อนที่ถึงตำแหน่งศูนย์ตายบน

ความดันที่วัดได้ก็จะต่ำเพราะเหลือไอดีอยู่น้อย
"


มันก็จะกลับมาเข้าเรื่องของกำลังอัดในกระบอกสูบ

คือที่ผมสังเกตุเห็นในรถมอเตอร์ไซค์คือความเร็วจะมีค่ากำลังอัดเป็นตัวแปรด้วย

เช่น รถครุยเซอร์ กำลังอัดจะอยู่ที่ 9.5:1 ในขณะที่รถสปอต กำลังอัดจะอยู่ที่ 10up ขึ้นไป ต่อ 1 เช่น 11:1 หรือ 11.5:1 (ซึ่งสูงมาก)

แล้วถ้าเราเพิ่มกำลังอัดให้รถ ครุยเซอร์ จะมีผลอย่างไร (น่าจะมีช่วงชักมาเป็นตัวแปรด้วยนะแต่ผมไม่ค่อยรู้เรื่อง)



ใครที่พอมีความรู้ก็ขอความกรุณาช่วยอธิบายให้เข้าใจหน่อยนะครับ

ไม่จำเป็นต้องตอบให้ตรงคำถามก็ได้ ตอบให้เป็นแนวทางก็ยังดี

ส่วนพวกค่าคำนวนต่างๆ นี่ถ้าอธิบายมาก็ได้โปรดบอกด้วยว่า ค่าตัวไหนมายังไง ไม่งั้นผมงง

ถ้าผมเข้าใจตรงไหนผิดไหนก็โปรดชี้แนะด้วย

(ผมไม่ได้เรียนมาสูงซะด้วยดิ แต่อยากทำความเข้าใจ )

เผื่ออนาคตจะได้แรงแบบมีเหตุมีผล ไม่ใช่สักแต่ลูกใหญ่ชักยาว จะได้รู้ว่ามันกระทำแต่ล่ะอย่างมีผลอย่างไร มีอะไรเกี่ยวข้องบ้าง


ทั้งหมดนี้ คนที่ชื่อ GOOD กับ กิม-DBS เค้าคุยกันในเว็บนี้แหละครับ เป็นความรู้ที่ผมยังตีไม่แตก 

ขอบคุณล่วงหน้านะครับ

 ;) ;) ;) l9



 

บันทึกการเข้า

หมาเฝ้าบอร์ด
ครอบครัวมาก่อนเสมอ
CBR Moderator
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8,594


นี้มันลูกลิงชัดๆ

819078776 thahnandorn@hotmail.com cbr150club.com cbr150club.com
เว็บไซต์ อีเมล์
« ตอบ #1 เมื่อ: 10, เมษายน 2013, 06:43:09 PM »

ขยันหามาให้อ่านจริงนะครับ  <%6 <%6 <%6
บันทึกการเข้า

sokuji
ทำไปเถอะถ้า...มีความสุข
ตามมาเร็ว เดี๋ยวจะพาไปออกทริป
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 358



อีเมล์
« ตอบ #2 เมื่อ: 10, เมษายน 2013, 07:10:56 PM »

ผมเรียนเกือบสุงยังไม่เข้าใจเลย
บันทึกการเข้า
skull
หักซ้าย หักขวา ไม่มีล้ม
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 169


อีเมล์
« ตอบ #3 เมื่อ: 10, เมษายน 2013, 07:35:08 PM »

ขยันหามาให้อ่านจริงนะครับ  <%6 <%6 <%6

ขอโทษครับ คงรกบอร์ดซินะครับ  cryyyyy

จริงๆก็อยากไปถามเว็บใหญ่ๆอย่าง pantip แต่มันสมัครยากเหลือเกิน มีเอาสำเนาบัตรด้วย

เลยได้แต่อ่าน ถ้ามีใครใจดีก็ฝากเอาไปลงเว็บ พันทิพย์ให้หน่อยนะครับ

จะเป็นพระคุณอย่างสูง

ผมเรียนเกือบสุงยังไม่เข้าใจเลย

ไม่เข้าใจเพราะการพิมพ์ของผมรึเปล่าหว่า  ???
บันทึกการเข้า
A@A
ขับช้า แต่อย่าให้ใครแซง
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 117


อีเมล์
« ตอบ #4 เมื่อ: 10, เมษายน 2013, 07:59:12 PM »

ถ้าเป็นผมนะจะอ่านแล้วปล่อยผ่านไปครับ
บันทึกการเข้า
Pongpang
CBRsCLUB @ Lampang
CBR Commando
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,914


« ตอบ #5 เมื่อ: 10, เมษายน 2013, 08:20:05 PM »

บุคคลระดับ เทพ เค้าคุยกันอะครับ ;D

มันจะทำความเข้าใจยากสำหรับคนธรรมดาๆอย่างเราๆ nooooo

มันเทียบเท่าระดับ วิศวกรรมเครื่องยนต์ เลยนะครับสำหรับบทความนี้ :-\
บันทึกการเข้า
index_v3
ขับช้า แต่อย่าให้ใครแซง
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 90


« ตอบ #6 เมื่อ: 10, เมษายน 2013, 08:44:33 PM »

รอเทพมาตอบครับ  :-\
บันทึกการเข้า
ไอศกรีม
ตามมาเร็ว เดี๋ยวจะพาไปออกทริป
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 302



อีเมล์
« ตอบ #7 เมื่อ: 10, เมษายน 2013, 09:54:54 PM »

รู้สึกเหมือนว่าตัวเองเขลาขึ้นมาทันที  l8
บันทึกการเข้า

darkkorpong
I'm CBRsCLUB
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 763


อีเมล์
« ตอบ #8 เมื่อ: 10, เมษายน 2013, 11:44:00 PM »

เอากันง่ายๆนะคราบตามที่ผมเข้าใจคือ
1 ท่านจขกท ต้องการสูตรไปแต่งรถใช่ไหมคราบ ถ้าผมเข้าใจผิดต้องขอโทษด้วย
ตอบ สูตรแต่งรถมันไม่มีตายตัวหรอกคราบ ทำแล้วคันนั้นดีแต่พอเป็นของเราดันวิ่งไม่ดี สูตรพวกนี้มันต้องคำนวณต่างๆนานาคราบ ทั้งน้ำหนักรถ น้ำหนักคนขับ ตำแหน่งนั่งของคนขับ และอื่นๆต่างๆนานา ทางที่ดีนะคราบ ถ้าท่านจขกทอยากทราบจริงๆก็ไปถามต่อจากกระทู้ที่เขาคุยกันดูคราบ  ผมว่าจะได้คำตอบที่เร็วและถูกต้องด้วยคราบ
บันทึกการเข้า
deseat_eagle
หักซ้าย หักขวา ไม่มีล้ม
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 285


« ตอบ #9 เมื่อ: 11, เมษายน 2013, 01:58:34 AM »

ค่อยๆ ทำความเข้าใจครับเดี๋ยวก็เทพเอง  >konan
บันทึกการเข้า
ต้น นครปฐม
ตามมาเร็ว เดี๋ยวจะพาไปออกทริป
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 463


มาร่วมกันสร้างครอบครัวที่อบอุ่นกันเถอะ


« ตอบ #10 เมื่อ: 11, เมษายน 2013, 05:03:57 AM »

 >som >som >som
ตามที่อ่านมาผมไม่ค่อยเข้าใจหรอกคับว่าอะไรเป้นอะไร
แต่ที่พอจะบอกได้ตามที่ได้ศึกษาปัญญาเท่าหางอึ่งของผมนะ
ถ้าลุกสุบใหญ่กว่าช่วงชัก จะได้ กำลังที่เราเรียกว่าแรงบิด หมายถึงแรงบิดสูง
แต่ถ้าลุกสุบเล็กกว่าช่วงชัก จะได้ แรงม้าที่มาพร้อมกับความประหยัด
เท่าที่สังเกตุมาอย่างรถเวฟ ช่วงชักจะยาวมากกว่าลุกสุบจะได้แรงม้าที่มาพร้อมกับความประหยัด
และตามที่เคยได้อ่านหนังสือหนังหาประเภทรถจักรยานยนต์เขาก้อแนะนำให้เราทำเครี่องยนต์
หรือเพิ่มขนาดของลุกสุบได้ไม่เกิน5ม.ม วัดจากไซร์สแตนดาร์ดเพราะเกินจากนั้นพังไวกว่าปกติ
หลายเท่าตัวหรือพุดง่ายๆว่าไม่เกินไซร์100 โดยประมาณ ถึงจะเหนียวทนได้เกือบเท่า้กับปกติ
จะผิดหรือถุกอย่างไงเป้นความคิดเห็นส่วนตัวของผม นะไม่ต้องเอาไปอ้างกับใคร
ถึงอ้างไปก้อไม่รุ้จะได้อะไร >%REDD >%REDD >%REDD
แต่เท่าที่เคยถามๆมานะคับไม่เคยเห้นช่างคนไหนกล้ารับประกันกับผมซักคนว่า
ทำุรถแรงไปแล้วจะเหนียวเท่าของเดิมเลย มีแต่บอกให้ผมใช้เดิมๆอะดีแล้ว
เพราะผมมือหนักประเภทแช่ยาวๆเป้น10โลขึ้นไป ไอเร็วๆประเดี๋ยวประด๋าวไม่เอา
ขี่แล้วรำคาญหัวใจ บิดได้400เมตร  บิดได้โลเดียว ไม่ชอบคับ พังคามือมาก้อหลายคัน
เดิมๆยังไม่ไหว(พอมันเก่ามันก้อเริ่มทนไม่ไหว) ใหม่ๆพอสุ้เราไหว
ถ้าให้แนะนำการแต่งแรงนะคับ  ซื้อไอที่แรงมาตั้งแต่ออกจากร้านเลย บิดไปเถอะ
4-5ปีไม่มีพัง เสียตังค์ครั้งเดียว  ขี่ช้าก้อได้ไวๆก้อได้  ไม่ต้องกลัวพัง
เห้นมาเยอะคับมิโอวิ่ง160 ไปได้พักเดียว เดี๋ยวก้อไปจอดอยู่ร้าน เผลอๆจอดที่ร้านมากกว่า
จอดอยู่ที่บ้านเราเสียอีก ซื้อรถมาไปจอดที่อุ่จอดที่ร้านจะซื้อมาทำไม 
บันทึกการเข้า


จุดมุ่งหมายครั้งแรกของการมาคลับคืออะไร
จงจำไว้ให้มั่นแล้วอย่าลืมเมื่อท่านอยู่นานๆ
และคอยเป้นตัวอย่างให้น้องใหม่ๆด้วยคับ
Little_T
ตามมาเร็ว เดี๋ยวจะพาไปออกทริป
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 417


ความสุขที่แท้จริงคือการได้ขี่มอเตอร์ไซค์คันโปรด ไปกับเพื่อนที่รู้ใจกัน


« ตอบ #11 เมื่อ: 11, เมษายน 2013, 05:30:31 AM »

>som >som >som
ตามที่อ่านมาผมไม่ค่อยเข้าใจหรอกคับว่าอะไรเป้นอะไร
แต่ที่พอจะบอกได้ตามที่ได้ศึกษาปัญญาเท่าหางอึ่งของผมนะ
ถ้าลุกสุบใหญ่กว่าช่วงชัก จะได้ กำลังที่เราเรียกว่าแรงบิด หมายถึงแรงบิดสูง
แต่ถ้าลุกสุบเล็กกว่าช่วงชัก จะได้ แรงม้าที่มาพร้อมกับความประหยัด
เท่าที่สังเกตุมาอย่างรถเวฟ ช่วงชักจะยาวมากกว่าลุกสุบจะได้แรงม้าที่มาพร้อมกับความประหยัด
และตามที่เคยได้อ่านหนังสือหนังหาประเภทรถจักรยานยนต์เขาก้อแนะนำให้เราทำเครี่องยนต์
หรือเพิ่มขนาดของลุกสุบได้ไม่เกิน5ม.ม วัดจากไซร์สแตนดาร์ดเพราะเกินจากนั้นพังไวกว่าปกติ
หลายเท่าตัวหรือพุดง่ายๆว่าไม่เกินไซร์100 โดยประมาณ ถึงจะเหนียวทนได้เกือบเท่า้กับปกติ
จะผิดหรือถุกอย่างไงเป้นความคิดเห็นส่วนตัวของผม นะไม่ต้องเอาไปอ้างกับใคร
ถึงอ้างไปก้อไม่รุ้จะได้อะไร >%REDD >%REDD >%REDD
แต่เท่าที่เคยถามๆมานะคับไม่เคยเห้นช่างคนไหนกล้ารับประกันกับผมซักคนว่า
ทำุรถแรงไปแล้วจะเหนียวเท่าของเดิมเลย มีแต่บอกให้ผมใช้เดิมๆอะดีแล้ว
เพราะผมมือหนักประเภทแช่ยาวๆเป้น10โลขึ้นไป ไอเร็วๆประเดี๋ยวประด๋าวไม่เอา
ขี่แล้วรำคาญหัวใจ บิดได้400เมตร  บิดได้โลเดียว ไม่ชอบคับ พังคามือมาก้อหลายคัน
เดิมๆยังไม่ไหว(พอมันเก่ามันก้อเริ่มทนไม่ไหว) ใหม่ๆพอสุ้เราไหว
ถ้าให้แนะนำการแต่งแรงนะคับ  ซื้อไอที่แรงมาตั้งแต่ออกจากร้านเลย บิดไปเถอะ
4-5ปีไม่มีพัง เสียตังค์ครั้งเดียว  ขี่ช้าก้อได้ไวๆก้อได้  ไม่ต้องกลัวพัง
เห้นมาเยอะคับมิโอวิ่ง160 ไปได้พักเดียว เดี๋ยวก้อไปจอดอยู่ร้าน เผลอๆจอดที่ร้านมากกว่า
จอดอยู่ที่บ้านเราเสียอีก ซื้อรถมาไปจอดที่อุ่จอดที่ร้านจะซื้อมาทำไม 


 >coooool >coooool >coooool

ว่าแต่ว่าขี่อย่างพี่คันไหนก้อไม่ไหวครับพี่ต้องขี่เครื่องบิน หรือ ฮอร์ ไปเลย เล่น กทม.- นครปฐม เป็นว่าเล่น ไม่ใช่ ปากเกร็ด - ดอนเมืองนะครับพี่ รักษาสุขภาพด้วยนะครับพี่ต้น เป็นห่วง....
บันทึกการเข้า

motosza
ตามมาเร็ว เดี๋ยวจะพาไปออกทริป
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 328


oneragame@hotmail.com
« ตอบ #12 เมื่อ: 11, เมษายน 2013, 02:56:54 PM »

เรื้่องตัวเลข ผมว่าไม่มีช่างคนไหนมานั่งวัดจริงๆจังๆหรือ คำนวนกันละเอียดๆหรอก ช่างส่วนมากช่างชอบใช้ความคุ้นเคยหรือความรู้สึกของตัวเอง   แต่ผมว่าก็มียกเว้นสำหรับ พวกทีมแข่งดังๆ หรือ พวกที่เงินหนาๆ ^ ^   หรือคนที่ชอบเรื่องนี้จริงๆจังๆ    กรณีทำเองไม่ได้

ปล.ลองไปหา อ.GOOD ซิ เพื่อว่าจะได้คำตอบจริงๆจังๆ แกอยู่หลายบอร์ดน่ะจากที่ผมเห็น  แกใช่ชื่อว่า GOOD ทุกบอร์ดและ ^ ^   

แต่ผมว่าอย่าไปใส่ใจมากเลย บางทีมันอาจจะไม่ใช่ทางของเรา ^ ^  ก็เป็นได้ครับ  ทำแรงที่ก็หมดเงินที่ ไหนจะค่าบำรุุงรถที่เพิ่มขึ่น  ถ้าจะเอาแรงผมว่าพอประมาณดีกว่าครับ 

ความรู้ผมไม่มาก แต่ถ้าพี่คิดจะทำแบบคำณวณจริงๆจังๆ  พี่คงต้องวัดกันตั้งแต่ก้านสูบอะ - -*   
 


 
บันทึกการเข้า
iammink
หักซ้าย หักขวา ไม่มีล้ม
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 191


มิได้ไว้โอ้อวด หากแต่เสริมบารมี


เว็บไซต์ อีเมล์
« ตอบ #13 เมื่อ: 11, เมษายน 2013, 05:05:02 PM »

 !sadsad รู้สึกที่ร่ำเรียนมา จะด้อยไปเลยครับ ทั้งๆที่บ้านมีอู่รถยนต์
บันทึกการเข้า

skull
หักซ้าย หักขวา ไม่มีล้ม
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 169


อีเมล์
« ตอบ #14 เมื่อ: 11, เมษายน 2013, 05:53:00 PM »

เอากันง่ายๆนะคราบตามที่ผมเข้าใจคือ
1 ท่านจขกท ต้องการสูตรไปแต่งรถใช่ไหมคราบ ถ้าผมเข้าใจผิดต้องขอโทษด้วย
ตอบ สูตรแต่งรถมันไม่มีตายตัวหรอกคราบ ทำแล้วคันนั้นดีแต่พอเป็นของเราดันวิ่งไม่ดี สูตรพวกนี้มันต้องคำนวณต่างๆนานาคราบ ทั้งน้ำหนักรถ น้ำหนักคนขับ ตำแหน่งนั่งของคนขับ และอื่นๆต่างๆนานา ทางที่ดีนะคราบ ถ้าท่านจขกทอยากทราบจริงๆก็ไปถามต่อจากกระทู้ที่เขาคุยกันดูคราบ  ผมว่าจะได้คำตอบที่เร็วและถูกต้องด้วยคราบ

>som >som >som
ตามที่อ่านมาผมไม่ค่อยเข้าใจหรอกคับว่าอะไรเป้นอะไร
แต่ที่พอจะบอกได้ตามที่ได้ศึกษาปัญญาเท่าหางอึ่งของผมนะ
ถ้าลุกสุบใหญ่กว่าช่วงชัก จะได้ กำลังที่เราเรียกว่าแรงบิด หมายถึงแรงบิดสูง
แต่ถ้าลุกสุบเล็กกว่าช่วงชัก จะได้ แรงม้าที่มาพร้อมกับความประหยัด
เท่าที่สังเกตุมาอย่างรถเวฟ ช่วงชักจะยาวมากกว่าลุกสุบจะได้แรงม้าที่มาพร้อมกับความประหยัด
และตามที่เคยได้อ่านหนังสือหนังหาประเภทรถจักรยานยนต์เขาก้อแนะนำให้เราทำเครี่องยนต์
หรือเพิ่มขนาดของลุกสุบได้ไม่เกิน5ม.ม วัดจากไซร์สแตนดาร์ดเพราะเกินจากนั้นพังไวกว่าปกติ
หลายเท่าตัวหรือพุดง่ายๆว่าไม่เกินไซร์100 โดยประมาณ ถึงจะเหนียวทนได้เกือบเท่า้กับปกติ
จะผิดหรือถุกอย่างไงเป้นความคิดเห็นส่วนตัวของผม นะไม่ต้องเอาไปอ้างกับใคร
ถึงอ้างไปก้อไม่รุ้จะได้อะไร >%REDD >%REDD >%REDD
แต่เท่าที่เคยถามๆมานะคับไม่เคยเห้นช่างคนไหนกล้ารับประกันกับผมซักคนว่า
ทำุรถแรงไปแล้วจะเหนียวเท่าของเดิมเลย มีแต่บอกให้ผมใช้เดิมๆอะดีแล้ว
เพราะผมมือหนักประเภทแช่ยาวๆเป้น10โลขึ้นไป ไอเร็วๆประเดี๋ยวประด๋าวไม่เอา
ขี่แล้วรำคาญหัวใจ บิดได้400เมตร  บิดได้โลเดียว ไม่ชอบคับ พังคามือมาก้อหลายคัน
เดิมๆยังไม่ไหว(พอมันเก่ามันก้อเริ่มทนไม่ไหว) ใหม่ๆพอสุ้เราไหว
ถ้าให้แนะนำการแต่งแรงนะคับ  ซื้อไอที่แรงมาตั้งแต่ออกจากร้านเลย บิดไปเถอะ
4-5ปีไม่มีพัง เสียตังค์ครั้งเดียว  ขี่ช้าก้อได้ไวๆก้อได้  ไม่ต้องกลัวพัง
เห้นมาเยอะคับมิโอวิ่ง160 ไปได้พักเดียว เดี๋ยวก้อไปจอดอยู่ร้าน เผลอๆจอดที่ร้านมากกว่า
จอดอยู่ที่บ้านเราเสียอีก ซื้อรถมาไปจอดที่อุ่จอดที่ร้านจะซื้อมาทำไม 

เรื้่องตัวเลข ผมว่าไม่มีช่างคนไหนมานั่งวัดจริงๆจังๆหรือ คำนวนกันละเอียดๆหรอก ช่างส่วนมากช่างชอบใช้ความคุ้นเคยหรือความรู้สึกของตัวเอง   แต่ผมว่าก็มียกเว้นสำหรับ พวกทีมแข่งดังๆ หรือ พวกที่เงินหนาๆ ^ ^   หรือคนที่ชอบเรื่องนี้จริงๆจังๆ    กรณีทำเองไม่ได้

ปล.ลองไปหา อ.GOOD ซิ เพื่อว่าจะได้คำตอบจริงๆจังๆ แกอยู่หลายบอร์ดน่ะจากที่ผมเห็น  แกใช่ชื่อว่า GOOD ทุกบอร์ดและ ^ ^  

แต่ผมว่าอย่าไปใส่ใจมากเลย บางทีมันอาจจะไม่ใช่ทางของเรา ^ ^  ก็เป็นได้ครับ  ทำแรงที่ก็หมดเงินที่ ไหนจะค่าบำรุุงรถที่เพิ่มขึ่น  ถ้าจะเอาแรงผมว่าพอประมาณดีกว่าครับ 

ความรู้ผมไม่มาก แต่ถ้าพี่คิดจะทำแบบคำณวณจริงๆจังๆ  พี่คงต้องวัดกันตั้งแต่ก้านสูบอะ - -*  
 


ไม่ได้จะแต่งแรงครับแต่อยากได้เป็นความรู้   !cry! เผื่ออยากแรง แต่ดูเหมือนคำถามมันจะยากไป  cryyyyy

เครื่องจักรใช้งานนานก็ต้องมีวันสึกเหรอ ก็ต้องมีซ่อมบำรุง เพื่อซักวันถึงเวลาของ cbr ผม ผมจะได้ยกระดับมันไปเลย


(แรงบันดาลใจผมคงมาจากหนัง Initial D ที่พอรถพระเอกเครื่องพัง พ่อมันจับลงเครื่องรถแข่งซะเลย กะเอาให้ตาย  :P)

(และเหมือนอาจารย์ผมเคยสอนไว้ว่า รถที่ซ่อมเป็นไปได้ยากที่จะทำให้กลับมา 100% เหมือนเดิม ทั่วไปถ้าดีๆก็ได้ 70%

ถ้าจะได้ 100% คงต้องเป็นช่างที่เทพมาก และค่าใช้จ่ายสูงมาก) (ที่ผมใช้คำว่าเหมือนเพราะจำได้แค่ลางๆว่าแกเคยพูด) :o

ขอบคุณมากนะครับ เลยกลายเป็นกระทู้รกบอร์ดไปโดยปริยาย
บันทึกการเข้า
skull
หักซ้าย หักขวา ไม่มีล้ม
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 169


อีเมล์
« ตอบ #15 เมื่อ: 11, เมษายน 2013, 06:00:28 PM »

บุคคลระดับ เทพ เค้าคุยกันอะครับ ;D

มันจะทำความเข้าใจยากสำหรับคนธรรมดาๆอย่างเราๆ nooooo

มันเทียบเท่าระดับ วิศวกรรมเครื่องยนต์ เลยนะครับสำหรับบทความนี้ :-\

รอเทพมาตอบครับ  :-\

รู้สึกเหมือนว่าตัวเองเขลาขึ้นมาทันที  l8

!sadsad รู้สึกที่ร่ำเรียนมา จะด้อยไปเลยครับ ทั้งๆที่บ้านมีอู่รถยนต์



มันยากขนาดนั้นเลยเรอะครับ เพราะผมก็ไม่เข้าใจ เรียนมาไม่ได้สูง นึกว่าจะเป็นคำถามพื้นๆ-กลางๆ น่าจะพอมีคนอธิบายให้ผมได้

ไม่นึกว่าจะไปเอาถำถามระดับเทพเข้ามาถาม สงสัยคงต้องไปเรียนวิศวะถึงจะเข้าใจ แต่ปัจจุบัน พาย คืออะไรยังไม่รู้เลย ถอดรู๊ด อีกอ่ะคือไรวะ

ตายตั้งแต่ยังไม่ทันเดิน  !dead 

ขอบคุณมากครับ

 l9 l9 l9
บันทึกการเข้า
ไอศกรีม
ตามมาเร็ว เดี๋ยวจะพาไปออกทริป
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 302



อีเมล์
« ตอบ #16 เมื่อ: 11, เมษายน 2013, 06:30:25 PM »

>som >som >som
ตามที่อ่านมาผมไม่ค่อยเข้าใจหรอกคับว่าอะไรเป้นอะไร
แต่ที่พอจะบอกได้ตามที่ได้ศึกษาปัญญาเท่าหางอึ่งของผมนะ
ถ้าลุกสุบใหญ่กว่าช่วงชัก จะได้ กำลังที่เราเรียกว่าแรงบิด หมายถึงแรงบิดสูง
แต่ถ้าลุกสุบเล็กกว่าช่วงชัก จะได้ แรงม้าที่มาพร้อมกับความประหยัด
เท่าที่สังเกตุมาอย่างรถเวฟ ช่วงชักจะยาวมากกว่าลุกสุบจะได้แรงม้าที่มาพร้อมกับความประหยัด
และตามที่เคยได้อ่านหนังสือหนังหาประเภทรถจักรยานยนต์เขาก้อแนะนำให้เราทำเครี่องยนต์
หรือเพิ่มขนาดของลุกสุบได้ไม่เกิน5ม.ม วัดจากไซร์สแตนดาร์ดเพราะเกินจากนั้นพังไวกว่าปกติ
หลายเท่าตัวหรือพุดง่ายๆว่าไม่เกินไซร์100 โดยประมาณ ถึงจะเหนียวทนได้เกือบเท่า้กับปกติ
จะผิดหรือถุกอย่างไงเป้นความคิดเห็นส่วนตัวของผม นะไม่ต้องเอาไปอ้างกับใคร
ถึงอ้างไปก้อไม่รุ้จะได้อะไร >%REDD >%REDD >%REDD
แต่เท่าที่เคยถามๆมานะคับไม่เคยเห้นช่างคนไหนกล้ารับประกันกับผมซักคนว่า
ทำุรถแรงไปแล้วจะเหนียวเท่าของเดิมเลย มีแต่บอกให้ผมใช้เดิมๆอะดีแล้ว
เพราะผมมือหนักประเภทแช่ยาวๆเป้น10โลขึ้นไป ไอเร็วๆประเดี๋ยวประด๋าวไม่เอา
ขี่แล้วรำคาญหัวใจ บิดได้400เมตร  บิดได้โลเดียว ไม่ชอบคับ พังคามือมาก้อหลายคัน
เดิมๆยังไม่ไหว(พอมันเก่ามันก้อเริ่มทนไม่ไหว) ใหม่ๆพอสุ้เราไหว
ถ้าให้แนะนำการแต่งแรงนะคับ  ซื้อไอที่แรงมาตั้งแต่ออกจากร้านเลย บิดไปเถอะ
4-5ปีไม่มีพัง เสียตังค์ครั้งเดียว  ขี่ช้าก้อได้ไวๆก้อได้  ไม่ต้องกลัวพัง
เห้นมาเยอะคับมิโอวิ่ง160 ไปได้พักเดียว เดี๋ยวก้อไปจอดอยู่ร้าน เผลอๆจอดที่ร้านมากกว่า
จอดอยู่ที่บ้านเราเสียอีก ซื้อรถมาไปจอดที่อุ่จอดที่ร้านจะซื้อมาทำไม 

พี่ต้นสนใจขับรถไฟไหมครับ จะพาไปเทโค้งบนราง  >som >som >som
บันทึกการเข้า

NOKLEK
ตามมาเร็ว เดี๋ยวจะพาไปออกทริป
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 388


« ตอบ #17 เมื่อ: 11, เมษายน 2013, 06:33:40 PM »

ช่วงชักที่ยาว รอบที่ต่ำ จะได้ความละเอียดในการดูดไอดี ในทางปฎิบัติ ก็จะได้ไอดีเต็มๆ การจุดระเบิดในแต่ละครั้ง ได้แรงประสิทธิภาพสูง
ช่วงชักสั้น การดูดไอดีไม่ได้ประสิทธิภาพเท่าช่วงชักที่ยาว แต่ ตับเป็ดใช้รอบในการหมุนน้อยกว่า แรงต้านจากการหมุนน้อยกว่า จึงทำให้รอบสูงสุดเยอะกว่า

ช่วงชักที่ยาว ถ้าปั่นรอบสูงๆ จะทำให้ลูกสูบเดินทางในกระบอกสูบไม่ทัน มีโอกาสที่ก้านสูบจะขาดสูง (พวกรถคลุยเซอร์ จึงมีรอบสูงสุดที่ต่ำ)
ช่วงชักที่สั้น จะสามารถปั่นรอบได้สูง เพราะลูกสูบเดินทาง (ขึ้น-ลง) ได้รวดเร็วกว่า

ลูกสูบที่ใหญ่ การจุดระเบิดจะทั่วถึงกว่าลูกสูบเล็ก (ไฟจะลุกไหม้จากบนลงล่าง)

กำลังอัด คืออัตราส่วนในการบีบอัดไอดี ถ้า 9:1 ก็คือ ดูดไอดีมาจนเต็มห้องเผาไหม้ แล้วอัดไอดีให้เหลือแค่ 1 ใน 9  (คิดภาพตามถึงการทุบกระป๋องน้ำอัดลม)
ยิ่งอัดมาก การจุดระเบิดก็จะยิ่งรุนแรง แต่ การอัดไอดีมากๆ ก็จะเกิดการเสียดสีของโมเลกุลมาก จึงมีโอกาสที่ไอดีจะลุกไหม้ก่อนที่จะถึงจังหวะการจุดระเบิด
ซึ่งจะสัมพันธ์กับค่าอ๊อคเทนของน้ำมัน (ค่าการทนไฟ) ยิ่งกำลังอัดสูงๆ ก็ต้องใช้ค่าอ๊อคเทนสูงๆ (95,100,110 พวกหลังๆต้องผสมน้ำมันเอง หรือมีจำหน่ายตามสนามแข่ง)

รถครุยเซอร์ รวมถึงรถครอบครัว เน้นประหยัดน้ำมัน และถึก จึงมีกำลังอัดที่น้อย รอบไม่จัด ช่วงชักยาว

Power band คือ จุดตัดของกราฟแรงบิดกับกราฟแรงม้า (อันนี้ไม่ชัวร์ครับ)
ในทางปฎิบัติ คือ ถ้าเปลี่ยนเกียร์ขึ้นแล้วให้รอบเครื่องมาตกที่รอบเครื่องตรงจุดตัดนั้น จะเป็นจุดที่รถมีอัตราเร่งดีที่สุด

*ถ้าเพิ่มกำลังอัดให้กับรถครุยเซอร์ที่มากเกินไป ก็มีความเสี่ยงที่ก้านสูบจะขาดครับ
แล้วก็รถครอบครัวและครุยเซอร์ จะเน้นไปที่แรงบิดมากกว่าแรงม้าครับ
ถ้ามองแบบง่ายๆก็ แรงบิด เป็นแรงที่ทำรถเพิ่มจากความเร็วหนึ่งไปสู่ความเร็วหนึ่ง
แรงม้า เป็นหน่วยวัดงานสูงสุดของเครื่องยนต์ ก็คือจะสัมพันธ์กับความเร็วสูงสุดที่รถจะทำได้

ถ้าจะเพิ่มเติมก็คือ ถ้ารถสองคัน วิ่งได้ 100 กม./ชม.
คันที่มีแรงบิดสูงกว่า จะวิ่งไปแตะที่ความเร็ว 100 กม./ชม. ก่อน

ไม่ได้ใช้ศัพท์วิชาการอะไรมาก แค่อธิบายปูพื้น ถ้าผู้ที่มีความรู้สูงกว่า กรุณาเข้าใจ
บันทึกการเข้า

ลูกผู้ชาย ถึงจะตายในท่อ ก็ต้องมุดไปตายเอาดาบหน้า
skull
หักซ้าย หักขวา ไม่มีล้ม
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 169


อีเมล์
« ตอบ #18 เมื่อ: 11, เมษายน 2013, 08:20:06 PM »

ช่วงชักที่ยาว รอบที่ต่ำ จะได้ความละเอียดในการดูดไอดี ในทางปฎิบัติ ก็จะได้ไอดีเต็มๆ การจุดระเบิดในแต่ละครั้ง ได้แรงประสิทธิภาพสูง
ช่วงชักสั้น การดูดไอดีไม่ได้ประสิทธิภาพเท่าช่วงชักที่ยาว แต่ ตับเป็ดใช้รอบในการหมุนน้อยกว่า แรงต้านจากการหมุนน้อยกว่า จึงทำให้รอบสูงสุดเยอะกว่า

ช่วงชักที่ยาว ถ้าปั่นรอบสูงๆ จะทำให้ลูกสูบเดินทางในกระบอกสูบไม่ทัน มีโอกาสที่ก้านสูบจะขาดสูง (พวกรถคลุยเซอร์ จึงมีรอบสูงสุดที่ต่ำ)
ช่วงชักที่สั้น จะสามารถปั่นรอบได้สูง เพราะลูกสูบเดินทาง (ขึ้น-ลง) ได้รวดเร็วกว่า

ลูกสูบที่ใหญ่ การจุดระเบิดจะทั่วถึงกว่าลูกสูบเล็ก (ไฟจะลุกไหม้จากบนลงล่าง)

กำลังอัด คืออัตราส่วนในการบีบอัดไอดี ถ้า 9:1 ก็คือ ดูดไอดีมาจนเต็มห้องเผาไหม้ แล้วอัดไอดีให้เหลือแค่ 1 ใน 9  (คิดภาพตามถึงการทุบกระป๋องน้ำอัดลม)
ยิ่งอัดมาก การจุดระเบิดก็จะยิ่งรุนแรง แต่ การอัดไอดีมากๆ ก็จะเกิดการเสียดสีของโมเลกุลมาก จึงมีโอกาสที่ไอดีจะลุกไหม้ก่อนที่จะถึงจังหวะการจุดระเบิด
ซึ่งจะสัมพันธ์กับค่าอ๊อคเทนของน้ำมัน (ค่าการทนไฟ) ยิ่งกำลังอัดสูงๆ ก็ต้องใช้ค่าอ๊อคเทนสูงๆ (95,100,110 พวกหลังๆต้องผสมน้ำมันเอง หรือมีจำหน่ายตามสนามแข่ง)

รถครุยเซอร์ รวมถึงรถครอบครัว เน้นประหยัดน้ำมัน และถึก จึงมีกำลังอัดที่น้อย รอบไม่จัด ช่วงชักยาว

Power band คือ จุดตัดของกราฟแรงบิดกับกราฟแรงม้า (อันนี้ไม่ชัวร์ครับ)
ในทางปฎิบัติ คือ ถ้าเปลี่ยนเกียร์ขึ้นแล้วให้รอบเครื่องมาตกที่รอบเครื่องตรงจุดตัดนั้น จะเป็นจุดที่รถมีอัตราเร่งดีที่สุด

*ถ้าเพิ่มกำลังอัดให้กับรถครุยเซอร์ที่มากเกินไป ก็มีความเสี่ยงที่ก้านสูบจะขาดครับ
แล้วก็รถครอบครัวและครุยเซอร์ จะเน้นไปที่แรงบิดมากกว่าแรงม้าครับ
ถ้ามองแบบง่ายๆก็ แรงบิด เป็นแรงที่ทำรถเพิ่มจากความเร็วหนึ่งไปสู่ความเร็วหนึ่ง
แรงม้า เป็นหน่วยวัดงานสูงสุดของเครื่องยนต์ ก็คือจะสัมพันธ์กับความเร็วสูงสุดที่รถจะทำได้

ถ้าจะเพิ่มเติมก็คือ ถ้ารถสองคัน วิ่งได้ 100 กม./ชม.
คันที่มีแรงบิดสูงกว่า จะวิ่งไปแตะที่ความเร็ว 100 กม./ชม. ก่อน

ไม่ได้ใช้ศัพท์วิชาการอะไรมาก แค่อธิบายปูพื้น ถ้าผู้ที่มีความรู้สูงกว่า กรุณาเข้าใจ


ขอบคุณมากครับ เข้าใจขึ้นเยอะเลยในเรื่องช่วงชักเนี่ย

แล้ว

"ถ้าจะเพิ่มเติมก็คือ ถ้ารถสองคัน วิ่งได้ 100 กม./ชม.
คันที่มีแรงบิดสูงกว่า จะวิ่งไปแตะที่ความเร็ว 100 กม./ชม. ก่อน
"

แต่รถที่มีแรงม้ามากกว่าจะสามารถไต่ระดับความเร็วสูงสุด(งาน)ไปได้ไกลกว่า ถึงจะเร่งได้ช้ากว่า ใช่มั้ยครับ   ???

(ไม่รู้เข้าใจถูกรึเปล่า)

แต่ขอบคุณมากครับ เป็นความรู้มากๆ

 ;) ;) ;)

 l9 l9 l9

 
บันทึกการเข้า
NOKLEK
ตามมาเร็ว เดี๋ยวจะพาไปออกทริป
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 388


« ตอบ #19 เมื่อ: 12, เมษายน 2013, 01:30:29 AM »

ความเร็วสูงสุดจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย
แรงม้าเป็นแค่ปัจจัยหนึ่งครับ แต่ที่เข้าใจ ก็ไม่ถึงกับผิดครับ

ความเร็ว เกิดจากแรงที่กระทำต่อวัตถุ (รวมถึงน้ำหนักของวัตถุ และพอเกิดความเร็วก็จะเกิดแรงต้านอากาศอีก)
เครื่องยนต์มีหน้าที่ผลิตแรง ซึ่งเป็นแค่ปัจจัยหนึ่งของความเร็วครับ

ถ้ารถน้ำหนักเท่ากัน รถที่มีแรงม้ามากกว่าก็จะมีความเร็วสูงสุดที่มากกว่า
บันทึกการเข้า

ลูกผู้ชาย ถึงจะตายในท่อ ก็ต้องมุดไปตายเอาดาบหน้า
หน้า: [1] 2   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  



หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.118 วินาที กับ 24 คำสั่ง