KLAMAWAW
ขออภัย...มือใหม่หัดขับ
ออฟไลน์
กระทู้: 9
|
|
« ตอบ #60 เมื่อ: 12, กรกฎาคม 2012, 08:43:29 AM » |
|
ผมใช้ CBR150R ปี51 ซึ่งกำลังจะตัดไฟหน้าออกไป โดยเปลี่ยนไปใช้ไฟโปรเจคเตอร์สำหรับมอเตอร์ไซค์ โดยการต่อตรงผ่านสวิตช์กุญแจ อย่างนี้จะมีปัญหาต่อระบบชาจ์ตของแบตเตอรี่มั้ยครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
pakwan110
|
|
« ตอบ #61 เมื่อ: 12, กรกฎาคม 2012, 07:22:41 PM » |
|
ผมใช้ CBR150R ปี51 ซึ่งกำลังจะตัดไฟหน้าออกไป โดยเปลี่ยนไปใช้ไฟโปรเจคเตอร์สำหรับมอเตอร์ไซค์ โดยการต่อตรงผ่านสวิตช์กุญแจ อย่างนี้จะมีปัญหาต่อระบบชาจ์ตของแบตเตอรี่มั้ยครับ
--- ถ้าใช้โปรเ็คเตอร์ 1 หลอดขนาดไม่เกิน 50-55W --- ซื้อ เรกูเลเตอร์ ใหม่ที่สามารถจ่ายไฟสูงสุดได้ 4-6 A. เปลี่ยนแบตเป็น 9A แต่ไม่เกิน 12 A (แบต 9A. ของ CBR600, CBR1000หน้าจะมีครับ และ เรกูเลเตอร์ ของHond สเป็คนี้ ราคาพันกว่าบาทเลงครับ) *** ใช้ฉุดเดียวจบครับ*** แต่ต้องดูดีๆนะครับเพราะ CBR 2008 ตัวปั่นไฟ (Generator) เป็นระบบ 1 เฟส ก็ต้องหาซื้อเรกูเลเตอร์ที่เป็นระบบ 1 เฟสเหมือนกันครับ การใส่สวิตช์ขึ้นอยู่กับ เรกูเลเตอร์ ครับ ถ้าเป็นเรกูเลเตอร์ชนิดที่แปรผันตามโหลด ก็ไม่ควรใส่สวิตช์ แต่ถ้าเป็น เรกูเลเตอร์ แบบจ่ายค่าคงที่ก็สามารถใส่สวิตช์ตัดต่อได้ครับ (ส่วนใหญ่ เรกูเลเตอร์ ขนาดนี้รุ่นนี้ จะจ่ายไฟคงที่ครับ)
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
manee2302
ขออภัย...มือใหม่หัดขับ
ออฟไลน์
กระทู้: 12
|
|
« ตอบ #62 เมื่อ: 13, กรกฎาคม 2012, 02:29:30 AM » |
|
ฟันธงได้รึเปล่าครับ ว่าต้องทำยังไงถึงจะดีที่สุดครับ .... ^^"
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
pakwan110
|
|
« ตอบ #63 เมื่อ: 13, กรกฎาคม 2012, 07:29:26 PM » |
|
ฟันธงได้รึเปล่าครับ ว่าต้องทำยังไงถึงจะดีที่สุดครับ .... ^^"
ทำได้ 100% แต่วิธีที่ดีที่สุดไม่มีครับยังไงก็ต้องได้อย่างเสียอย่าง วิธีที่เกลือบจะดีที่สุดคือ ใช้ตัว เรกูเลเตอร์ แบบ 1 เฟสที่สามารถจ่ายไฟสูงสุดได้ 4-6 A เปลี่ยนแทนของเดิม แบตเตอรี่เปลี่ยนเป็นขนาด 12V 9Ah 10HR (10HR คือจ่ายกระแส 9 แอมป์ได้ 10 ชั่วโมง) สายไฟที่ต่อผ่านสวิตช์เปิด-ปิด เพิ่มขนาดเป็น 1.5 ตร.มม. : วิธีนี้ใช้โปรเ็คเตอร์ 1 หลอดขนาดไม่เกิน 50-55W ครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
deseat_eagle
|
|
« ตอบ #64 เมื่อ: 27, กรกฎาคม 2012, 05:51:28 AM » |
|
ตัวคาร์บู ใส่หลอด ไฟหน้าหัวฉีด ต้องเปลี่ยนเรกูเรเตอร์ เเละเเบ๊ตเพิ่มเป็น9เเอมป์ใช่ไหมครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
CJadza
|
|
« ตอบ #65 เมื่อ: 28, กรกฎาคม 2012, 09:03:23 PM » |
|
รบกวน ที นะ ครับ พอดี รถ ผม cbr ตัว เก่า วันนั้นเป็น ช่วงสอบ ไปนอน หอเพื่อน 5 วัน พอสตาด แบต หมด สตาท ไม่ ติด คือ อยากรู้ว่า ดับเครื่อง แล้วจอดไว้หลายๆ วันควร ดึง ขั้วแบตออกไหม
ข้อ 2 นะครับ คือ รถผม ตอนไม่สตาท วัดได้ 12.8 V สตาทก็วันได้ 12.8 แต่พอ เร่งเครื่อง ได้ ราวๆ 13 .5 อยาก จะรุ้ ว่า ตอน ผมไม่ลิด นี้มั l2ไม่ชาด เลยหรอ
รบกวนด้วยครับ l9 ;)
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
kimdunhee
ขออภัย...มือใหม่หัดขับ
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 8
|
|
« ตอบ #66 เมื่อ: 10, สิงหาคม 2012, 11:14:37 AM » |
|
รบกวนถามหน่อยคับ ผมใช้cbr150R. ใสซี นอล 2 ดวง + สัญญาณกัน ปัญหาคือ ไฟไม่่พอ พอ จะมีวิธี แก้ มี้ย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
bongza
|
|
« ตอบ #67 เมื่อ: 03, มกราคม 2013, 12:29:24 AM » |
|
ใช้แผ่นชาร์ท N pro ใส่แทนครับ มัดไฟสามเฟสปั่นได้ 220W แต่เรกูเลเตอร์ปล่อยชาร์ทแบตแค่ 5 แอมป์
ของ N pro ใช้ไฟ DC ชาร์ทแบตโดยตรงครับ มีเรกูเลเตอร์คุมไฟไม่ให้เกิน 14 โวลต์ กันแบตโอเวอร์ขาร์ท
แต่ไม่คุมแอมป์ครับปั่นได้แค่ไหนก็ใช้ได้แค่นั้น ซึ่งอาศัยหลักการที่ธรรมชาติของ
แบตตะกั่วกรดกระแสจะไหลน้อยลงที่แรงดันสูงขึ้นจนหยุดที่ 14 โวลต์ครับ
แผ่นชาร์ตสามเฟสใช้กับแบบมัดไฟเฟสเดียวก็ได้แต่ต้องลอยกราวด์ของมัดไฟไม่ให้ลงตัวถัง ( ของเดิมใช้แบบฮาร์ฟเวฟเรคติไฟร์ )
เป็นระบบ ฟูลเวฟ ก็จะได้ไฟ DC มากขึ้น
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SzAVowY
|
|
« ตอบ #68 เมื่อ: 25, มกราคม 2013, 05:07:36 AM » |
|
ขอบคุณความรู้ดีๆ ครับ >coooool ผมอ่านแล้วถูกใจวิธีนึง คือ ถ้าจะเปลี่ยนหลอดไปเป็นแบบที่ใช้ไฟมากกว่า ก็เปลี่ยนแบ็ตให้รับกันด้วย โดยที่ไม่ต้องทำสวิชตัดไฟ ปัญหาก็จะเกิดน้อยลง l1 ว่าแต่ ใส่ไฟแรงๆ แล้วไม่ปิด ขี่นานๆ โคมจะละลายก่อนมั้ยครับเนี่ย ???
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
oNuTo
|
|
« ตอบ #69 เมื่อ: 01, เมษายน 2013, 12:40:07 AM » |
|
ผมขอถามเป็นความรู้เพิ่มนิดหน่อยครับ ผมใช้ CBR150i มาเป็นระยะเวลา 2 ปี 3 เดือน แบตเดิมไม่มีอาการงอแงแม้แต่น้อย ไม่เคยยุ่งกับระบบไฟ ไม่มีสวิตช์เปิด-ปิดไฟหน้า แต่ปัจจุบันเพิ่งเปลี่ยนหลอดไฟหน้าเป็น 60/55W (ติดไฟเลี้ยว LED หน้า-หลัง, ติดไฟผ่าหมาก, ติดสัญญาณกันขโมย ซึ่งโหลดพวกนี้ไม่น่ามีผลกับระบบไฟมากเพราะไม่ใช่โหลดที่ใช้ตลอดเวลาอย่างไฟหน้า) และไม่มีสวิตช์เปิด-ปิดไฟหน้าเหมือนเดิม (ไม่คิดจะติดอยู่แล้ว) กรณีใช้แบตเดิมติดรถ 12V 5Ah เปลี่ยนหลอดไฟหน้าเป็น 60/55W โหลดจะมากกว่าหลอดเดิม 20W ทำให้กระแสในวงจรที่เรคกูเรเตอร์ต้องจ่ายเพิ่มมากขึ้น 20/12=1.67A ดังนั้นกระแสที่ชาร์จเข้าแบตเตอรี่จะสูงขึ้นอีก 1.67A ซึ่งจะทำให้แบตเสื่อมเร็วขึ้นอย่างแน่นอน (ผมพร้อมจะเปลี่ยนแบตมาตั้งแต่ใช้ครบ1ปีแล้ว แต่มันไม่งอแงนี่นา) แต่ไม่ว่าอย่างไรผมไม่มีทางจะกลับไปใช้หลอดไฟวัตต์เท่าเดิมแน่ เพราะความสว่างของหลอด 60/55W นี้ประทับใจมากและไม่เกินสเป็คโคมด้วย ทีนี้ผมจะถามว่าหากใช้แบตที่มีขนาดความจุมากขึ้น (ผมมอง FB 12V 7Ah ไว้อยู่ครับ) จะเป็นการแก้ปัญหากระแสชาร์จเข้าที่เพิ่มขึ้น 1.67A นี้ได้อย่างไร หรือว่าขนาดแบตที่จุได้มากขึ้นทำให้กระแสเริ่มชาร์จสูงขึ้นตามไปด้วย และรองรับกระแสในการชาร์จได้สูงขึ้นด้วย ผมเข้าใจถูกไหม (ตอนนี้ผมมองภาพจากอะแดปเตอร์ของไอโฟนและไอแพดซึ่งเข้าใจว่าค่ากระแสและแรงดันที่แปลงออกมาคงที่ไม่แปรผันตามโหลด ไอโฟนต้องการกระแสในการชาร์จ 1A จึงจะเหมาะสม แต่ไอแพดต้องการกระแสในการชาร์จ 2A จึงจะเหมาะสม หากนำอะแดปเตอร์ของไอแพดไปชาร์จไอโฟนก็ได้ แบตเต็มเร็วขึ้น แต่แบตไอโฟนอาจเสื่อมเร็วขึ้นหรือบวม) ขอบคุณครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
HS0PJX
|
|
« ตอบ #70 เมื่อ: 04, พฤษภาคม 2013, 06:04:13 AM » |
|
ใช้ เพาเวอร์รีซิสเตอร์ ขนาด 35 วัตต์ (Power Resistor 35W) หาที่ติดดีๆนิดนึงครับ เพราะต้องติดแผงระบายความร้อนให้มันด้วย และสวิตช์สลับ 1 ตัว วงจรตามภาพเลยครับ ถ้าเอาตัวต้านทานหรือ R มาต่อลงกราวด์ มันจะสูญเสียพลังงานโดยเปล่าประโยชน์ครับ ผมว่าต่อไฟหน้าใว้อย่างเดิมดีกว่ามีประโยชน์กว่ากันเยอะ ปลอดภัยด้วย ยังไงแบตมันก็เสื่อมอยู่ดี กระแสที่จะชาร์จแบตแห้งจะใช้กระแสตำ่ครับต่ำกว่าแบตกรด ส่วนแบตกรด หรือแบตเติมน้ำ สามารถชาร์จได้ที่กระแสไม่เกิน10%ของความจุแบตครับ แล้วที่ว่า ตัดไฟหน้าออกแล้วกระแสชาร์จลดลง มันก็ถูกต้องแล้วครับเพราะตัดภาระไปตั้ง35w แผ่นชาร์จไม่ต้องทำงานหนัก ชิวๆ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
pakwan110
|
|
« ตอบ #71 เมื่อ: 05, พฤษภาคม 2013, 05:00:07 AM » |
|
<cry
ผมโพสไว้เพราะเป็นห่วงท่านที่มีสวิทช์ตัดไฟหน้าครับ โชคดีอาจจะแค่แบตฯเสื่อม ถ้าโชคร้ายเรกูเลเตอร์เดี้ยง !dead เป็นความรู้เล็กๆน้อยๆที่อยากแชร์ให้กันครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
artit3651
|
|
« ตอบ #72 เมื่อ: 19, พฤษภาคม 2013, 12:15:43 AM » |
|
>coooool >coooool >coooool
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
artit3651
|
|
« ตอบ #73 เมื่อ: 21, พฤษภาคม 2013, 05:03:56 AM » |
|
ถ้าไม่ใช้ power R แต่ใช้ R กระเบื้อง 0 โอม 35 watt ได้ไหมครับ >@#%GD >@#%GD l5 l4 l15
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
MarkCBR
|
|
« ตอบ #74 เมื่อ: 21, พฤษภาคม 2013, 06:09:32 AM » |
|
ความรู้ล่วนๆเลยครับ ขอบคุณมากครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ความแรงมันอยู่ที่ใจ เคยได้ยินไหม สั่งได้ดั่งใจ
|
|
|
Chardonnnay
|
|
« ตอบ #75 เมื่อ: 22, พฤษภาคม 2013, 08:13:32 AM » |
|
ขอย้อนกลับมาที่ สัญญานกันโขมยอีกครั้งนะครับ จะเป็นไปได้ไหมที่ รถจะสตาร์ทติดเอง จากสัญญานกันโขมย เพราะก่อนหน้านี้ติดสัญญานกันโขมย แต่ปรากฎว่าวันดีคืนดี รถติดเองซะงั้น วันนั้นถ้ายามไม่วิ่งมาบอก ไม่อยากจะคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้น >%REDD
หลังจากนั้นได้ไปแก้ไขตัดระบบสตาร์ท รีโหมต ออก แต่ถึงยังไงถ้าเรากดปุ่มสตาร์ท รีโหมด ไฟรถก็ติดอยู่ดี แต่รถไม่ติด
เดือนก่อน ขับรถไปที่ทำงานจอดเอาไว้ น้องที่ทำงานมาบอกว่าไฟหน้ารถผมติดให้ไปดูด้วย ปรากฎว่าพอไปถึงรถ ไฟเหลือ 10.5 (ผมมีตัววัดแบต) :fdwrt
ทั้ง 2 กรณีผมยืนยันว่าไม่ได้เผลอไปกดแน่นอน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
gazzoziation
|
|
« ตอบ #76 เมื่อ: 17, มิถุนายน 2013, 04:47:09 AM » |
|
ความรู้เข้มข้นมากครับ !goodjob
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
***มีขุนแผนเป็นตะกร้า ก็สู้มี CBR คันเดียวไม่ได้***
|
|
|
Puen
|
|
« ตอบ #77 เมื่อ: 31, ตุลาคม 2013, 01:39:20 AM » |
|
เเล้วเวลาผมไปซื้อ Power Resistor 35W ควรจะบอกกับคนขายยังไงบ้างครับ เพราะว่าผมเคยไปซื้อมาเเล้ว เขาถามว่ามันคืออะไร เป็นตัวยังไง เเล้วมันเป็นไดโอดเหรอ เบอร์ไหน กี่เเอมอะไรประมาณนี้อ่ะครับ http://www.hungchuantek.com/product/en_Power%20resistor%20-%20TO22016.htmlที่อยู่ในรูปตามลิงค์ จะมี TR20 5RF C5013 เเล้วหรัสพวกนี้คืออะไรครับ เวลาเราไปซื้อ จะบอกเขาว่ารหัสอะไรดีครับ หรือเอารหัสอะไรก็ได้เเละกี่เเอมป์ก็ได้ ว่าเเต่ขอให้เป็น35w หรือต้องจำกัดว่าต้อง35w 3Aเท่านั้น
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|