CBRsCLUB
 
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 



หน้า: 1 [2]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: เพราะใส่หลอดไฟ Osram เลยโดนตำรวจเรียก ?????????  (อ่าน 12016 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หมีขั้วโลก
I'm CBRsCLUB
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 589


palm.2499@hotmail.com ไม่มีใครเกิดมาไรค่า+แม้คนที่ฉลาด
อีเมล์
« ตอบ #20 เมื่อ: 04, กรกฎาคม 2012, 08:38:53 AM »

หลอดอะไรก็ได้ยี่ห้ออะไรก็ได้แต่สีต้องเป็นสีส้มหรือใกล้เคียงของเดิม
บันทึกการเข้า

[/img]http://image.ohozaa.com/view2/wnyH1FkpPHyi955Z

poomalee
หักซ้าย หักขวา ไม่มีล้ม
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 274


poomalee@hotmail.com
อีเมล์
« ตอบ #21 เมื่อ: 04, กรกฎาคม 2012, 05:16:46 PM »

จริง ๆ ที่จับ ๆ กัน ที่ว่าแจ่งอะไรผิดไปหมด นั่นหมายถึง การ "ดัดแปลงสภาพรถ" ซึ่งการกระทำนั้นทำให้สูญเสียประโยชน์ หรือการป้องกัน อันที่จะได้รับจากตัวรถ หรืออุปกรณ์ส่วนควบเดิม เช่น ท่อไอเสีย แบบนี้ผู้ผลิตเขาออกแบบมาให้เสียงดังไม่เกินกฎหมายกำหนด ก่อมลพิษไม่เกินกฎหมายกำหนด แต่ถ้าเอามาแต่งท่อ ผ่าท่อ ให้มันดัง ๆ ก็โดนจับ หรือว่าเรื่องไฟรถ ถ้าไม่ใช่ไฟเดิม ๆ หรือสีใกล้ของเดิมก็จับ แต่อันนี้ผิด พ.ร.บ.รถยนต์ เรื่องข้อกำหนดของไฟส่องสว่าง หรือกรณีกระจกส่องหลัง ถ้าเป็นกระจกแต่ง ปกติก็ไม่จับกัน เพราะส่องแล้วเห็นข้างหลังไม่ต่างจากของเดิม แต่ถ้าส่องแล้วเห็นแต่ไข่ตัวเอง ก็อาจจะผิดได้

ส่วนเรื่องสติ๊กเกอร์นั้น ถ้าเป็นสีเดียวกับลายเดิม หรือสีอื่นแต่มีพื้นที่ไม่เกินอัตราส่วนที่กฎหมายกำหนด ก็ไม่เป็นไร แต่ถ้ารถสีน้ำเงิน แร๊บแม่มทั้งคันเป็นสีแดง อันนี้คงไม่ได้ เพราะผิดไม่จดแจ้งสีให้ตรง หรือหากเป็นเกียร์โยง จริง ๆ ก็ผิด แต่บางทีก็ไม่จับ แบบว่าขี้เกียจ หรือถ้าเป็นกรณีใส่ชิลหน้ายาว ๆ แบบนี้ก็ไม่ผิด เพราะไม่เสียประโยชน์จากการใช้งานทั่วไป แถมยังป้องกันหิน กันแมลงได้อีก หรือหากว่าไปฝาครอบเบาะท้ายเป็นตูดมดก็ไม่ผิด เพราะไม่ถือว่าทำให้เสียประโยชน์จากการใช้งานปกติ หรือจะทำเป็นพลาสติก ที่นั่งไม่ได้ ก็ไม่มีปัญหา เพราะว่ารถเราเอาไว้ขี่คนเดียว ไม่เสียประโยชน์จากการใช้งานตามปกติ

แนวทางประมาณนี้ แต่ถ้าพี่ตั้มจะทำยอด ก็ปล่อยเค้าไปเหอะ ถ้าจะเถียง ไปอ่านกฎหมายให้ดีก่อน แล้วค่อยเถียง ไม่งั้นจะหงายเงิบได้  :P :P :P
บันทึกการเข้า
ballcbr
I'm CBRsCLUB
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,154

Follow me to hell

ball_cbr@windowslive.com
« ตอบ #22 เมื่อ: 04, กรกฎาคม 2012, 06:18:52 PM »

พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522  โคมไฟหน้ารถมี 3 ประเภท คือ

1. โคมไฟแสงพุ่งไกล ให้ใช้ไฟแสงขาว กำลังไฟไม่เกิน 50 วัตต์ เห็นได้ชัดเจนไม่น้อยกว่า 100 เมตร

2. โคมไฟแสงพุ่งต่ำ ให้ใช้ไฟแสงขาว กำลังไฟไม่เกิน 50 วัตต์ เห็นได้ชัดเจนไม่น้อยกว่า 30 เมตร

3. โคมไฟเล็ก ให้ใช้ไฟแสงขาว หรือแสงเหลือง กำลังไฟไม่เกิน 10 วัตต์ เห็นได้ ชัดเจนไม่น้อยกว่า 150 เมตร

หากรถคันใดจะมีโคมไฟหน้ารถ เพื่อตัดหมอกก็ได้ โดยใช้ไฟแสงขาว หรือแสงเหลืองกำลังไฟไม่เกิน 55 วัตต์

นอกจากนี้ กฎกระทรวง ข้อ 13 (3 ทวิ) ระบุว่า “ในกรณีที่รถมีโคมไฟเพื่อใช้ตัดหมอก จะเปิดไฟหรือแสงสว่างได้เฉพาะในทางที่จะขับรถผ่านมีหมอก ควัน หรือฝุ่นละอองจนเป็นอุปสรรคอันอาจเกิดอันตรายในขณะขับรถและเมื่อไม่มีรถอยู่ด้านหน้า หรือสวนมาในระยะของแสงไฟ”

สำหรับผู้ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตาม พ.ร.บ.นี้ มีความผิดฐานขับรถในทางในเวลาที่มีแสงสว่างไม่เพียงพอ โดยไม่เปิดไฟหรือใช้แสงสว่างตามประเภท ลักษณะ และเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง, ตามมาตรา 11 ความผิดฐานนำรถที่มีหรือใช้โคมไฟผิดประเภท และลักษณะที่กำหนดในกฎกระทรวงมาใช้ในทาง โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นหนังสือ จากเจ้าพนักงานจราจร (มาตรา 11, กฎกระทรวง ฉบับที่ 2)

รองภาณุยังบอกอีกว่า ในเวลาที่แสงสว่างไม่เพียงพอ นอกจากจะหมายถึงในเวลากลางคืนแล้ว ยังหมายความรวมถึงในเวลาพลบค่ำ หมอกลงจัด หรือเวลาฝนตก ซึ่งทำให้ผู้ขับขี่มองเห็นคน รถ หรือสิ่งกีดขวางในทางได้ไม่ชัดแจ้งภายในระยะไม่น้อยกว่า 150 เมตร ผู้ขับขี่ต้องเปิดไฟ นอกจากนี้ ในเวลาปกติการใช้โคมไฟกับรถแต่ละประเภท ก็ต้องเป็นไปตามที่กำหนดในกฎกระทรวง

อัตราโทษสำหรับผู้ฝ่าฝืนกระทำความผิด ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 500 บาท
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 [2]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  



หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.048 วินาที กับ 26 คำสั่ง