CBRsCLUB
 
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 



หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: เรามารู้จักน้ำมันเครื่องอย่างเข้าใจ  (อ่าน 4314 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Asus
ผมมันคนจรครับ
I'm CBRsCLUB
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,387


CBR แดงดำ..ขอขี่แบบเดิมๆ

ha_lovelove@hotmail.com
« เมื่อ: 07, มกราคม 2011, 02:43:03 AM »

การใช้งานยานยนต์ในทุกวันนี้ นอกจากจะต้องคำนึงถึงความประหยัดและคุ้มค่าแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่อยากจะให้พวกเราสิงห์นักบิด สร้างสำนึกขึ้นในใจก็คือการรักษาสิ่งแวดล้อมที่นับวันจะแย่ลงทุกที สิ่งที่เราใช้กับรถจักรยานยนต์ที่เราขับขี่กันอยู่ทุกวันนี้ ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่ต้องสังเคราะห์จากธรรมชาติ ผ่านกรรมวิธีทางเคมีจนอยู่ในสภาพที่เป็นพิษต่อร่างกาย อย่างง่ายๆ ก็คือน้ำมันเครื่องที่เราท่านรู้จักกันดีเพราะว่าจัดเป็นของจำเป็นสำหรับ เครื่องยนต์ทุกชนิด และมีหลายคนที่สมัครใจจะลงมือถ่ายน้ำมันเครื่องด้วยตัวเอง การจับต้องหรือสัมผัสน้ำมันเครื่องโดยตรงเป็นสิ่งที่ไม่ควรครับ วันนี้เราจะมารู้จักน้ำมันเครื่องให้ลึกกว่าที่เคย

หน้าที่ของระบบหล่อลื่น

ก่อนจะรู้จักกับน้ำมัน เรามาทำความรู้จักกับระบบหล่อลื่นของเครื่องยนต์กันก่อนดีกว่า ระบบหล่อลื่นจะมีหน้าที่หลักๆ ก็คือ

1.ลดความเสียดทานระหว่างชิ้นส่วนที่เคลื่อนที่
2.ระบายความร้อน
3.ผนึกแหวนลูกสูบและกระบอกสูบ
4.ทำความสะอาด

เมื่อ ต้องมีหน้าที่ทั้ง 4 ประการอย่างที่บอกมาแล้ว น้ำมันที่ได้มาจากการขุดเจาะตามแหล่งน้ำมันตาม ธรรมชาติแม้ว่าจะมีคุณสมบัติใน การหล่อลื่นอยู่แล้ว แต่เมื่อต้องนำมาใช้กับเครื่องยนต์ก็มีความจำเป็นต้องนำสารเพิ่มคุณภาพต่างๆ หรือสารเติมแต่งเข้าไป ซึ่งก็มีอยู่มากมายหลายอย่างแล้วแต่ความจะเป็นในการใช้งานของน้ำมันหล่อลื่น แต่ละประเภท สำหรับน้ำมันเครื่อง สารเติมแต่งที่เติมเข้าไปก็จะมี
- สารต้านทานการรวมตัวกับออกซิเจน
- สารป้องกันสนิม
- สารต้านทานการกัดกร่อน
- สารชะล้างทำความสะอาด
- สารกระจายเขม่าตะกอน
- สารเพิ่มดัชนีความหนืด
- สารต้านทานการเกิดฟอง
- สารต้านทานการสึกหรอ
- สารลดแรงเสียดทาน
ส่วน น้ำมันหล่อลื่นประเภทอื่นอย่างเช่นน้ำมันเกียร์ หรือน้ำมันไฮดรอลิค ก็จะมีการเติมสารเพิ่มคุณภาพที่ต่างออกไปแล้วแต่ความจำเป็น การแยกประเภทน้ำมันเครื่อง น้ำมันเครื่องที่มีวางตามท้องตลาดขายกันหลายราคา ทั้งถูกทั้งแพงมีให้เลือก นั่นก็เพราะมีการแยก
ประเภทของน้ำมัน ออกตามคุณภาพของการใช้งาน ซึ่งจะแบ่งย่อยเป็นอีก 3 ประเภท

1.น้ำมันธรรมดา
2.น้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์
3.น้ำมันเครื่องสังเคราะห์ 100%

ที่เรียงให้ดูนี่ก็ตามลำดับราคาจากถูกไปหาแพงด้วยนะครับ ทำไมถึงเป็นอย่างนั้น นั่นก็เพราะว่าในน้ำมันเครื่องแบบสังเคราะห์ หรือฟูลลี่ซินเธติคนั้น การเรียงตัวของโมเลกุลในน้ำมันจะสม่ำเสมอราบเรียบกว่าน้ำมันเครื่องเกรด ธรรมดา ทำให้มีความได้เปรียบกว่าน้ำมันเครื่องเกรดธรรมดาหลายประการ คือ ใช้งานได้ยาวนาน , การหล่อลื่นดีกว่า , ดัชนีความหนืดสูง ใช้งานได้ดีทุกอุณหภูมิ , อัตราการระเหยต่ำ ไม่กินน้ำมันเครื่อง ด้วยคุณสมบัติที่เหนือกว่าเหล่านี้ทำให้น้ำมันเครื่องสังเคราะห์มีราคาสูง กว่าน้ำมันเครื่องเกรดธรรมดาหลายเท่าตัว ส่วนน้ำมันเครื่องเกรดกึ่งสังเคราะห์ก็จะอยู่กึ่งกลางทั้งราคาและคุณภาพ ปกติเวลาที่โฆษณาขายน้ำมันเครื่องแต่ละตัวนั้น ถ้าเป็นน้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์หรือสังเคราะห์ 100% ส่วนมากจะเน้นคำโตเชียวแหละครับ

มาตรฐานของน้ำมันเครื่อง
ยัง มีรหัสไม่ลับอีกอย่างที่น่าจะรู้เอาไว้ด้วยนะครับ ก็คือเรื่องมาตรฐานของน้ำมันเครื่อง ซึ่งแต่ละแห่งทั่วโลกก็จะมีมาตรฐานแตกต่างกันออกไปตามแต่สภาพอากาศ ซึ่งจะพอสังเกตข้างประป๋องได้จาก มาตรฐาน SAE หรือมาตรฐาน API
SAE คือมาตรฐานแรกที่จะแนะนำกัน เป็นมาตรฐานที่กำหนดขึ้นโดยองค์กรของอเมริกา เป็นการบอกค่าความหนืดของน้ำมันเครื่อง ความหนืดก็คือความสามารถในการไหลของของเหลวชนิดต่างๆ ยกตัวอย่างน้ำมันเครื่องกับน้ำมันเบนซิน เบนซินจะไหลเร็วกว่าน้ำมันเครื่อง บอกได้ว่าน้ำมันเบนซินมีความหนืดน้อยกว่าน้ำมันเครื่อง ซึ่งในมาตรฐานของ SAE ก็จะมีแบ่งออกเป็นเกรดรวม (Multi Grade เช่น SAE 15W-40) กับเกรดเดียว (Single Grade SAE 30) ได้อีกสำหรับค่าความหนืดที่เหมาะใช้กับเมืองไทยจะอยู่ระหว่าง SAE 30 ถึง SAE 50
API ก็เป็นอีกมาตรฐานหนึ่งที่ถูกใช้ในระดับสากล โดยจะมีการให้มาตรฐานตามระดับคุณภาพของน้ำมันที่ได้พัฒนาขึ้น และคุณสมบัติของน้ำมันแต่ละตัว มาตรฐานนี้จะไม่มีบอกเป็นตัวเลขครับ แต่จะใช้ตัวหนังสือ สำหรับน้ำมันเครื่องยนต์เบนซินจะใช้ SA , SB , SC...ไปเรื่อยๆ จนตอนนี้มาตรฐานล่าสุดคือ API SL โดยที่ API SA จะมีคุณภาพต่ำสุด และไล่ไปเรื่อยๆ จนถึงสูงสุดคือ API SL นั่นเอง

อะไรทำให้น้ำมันเครื่องสกปรก
เมื่อ รู้วิธีเลือกใช้นำมันเครื่องกันแล้วก็นำมาใช้ได้อย่างถูกต้องแล้วนะครับ ทีนี้เคยสงสัยไหมครับว่าทำไมน้ำมันเครื่องเวลาที่เราถ่ายออกมามันถึงได้ สกปรกนัก นั่นก็เพราะเครื่องยนต์ทำงานได้เพราะว่าจะต้องเกิดการเผาไหม้เชื้อเพลิงที่ ถูกส่งเข้าไปข้างใน และต้องระบายเอาของเสียออกมาซึ่งท่อไอเสียทำได้แค่ระบายไอเสีย สิ่งตกค้างอื่นๆ ส่วนหนึ่งก็ต้องอาศัยไหลออกมากับน้ำมันเครื่องนี่เอง นั่นคือคำตอบที่ว่า ทำไมน้ำมันเครื่องจึงสกปรกหลังจากผ่านการใช้งาน

การใช้งานและอายุการใช้งานของน้ำมันเครื่อง
ถ้ามีรถอยู่สองคัน รถ A กับรถ B รถ A ใช้งานต่างจังหวัดเป็นหลัก วิ่งทีไกลๆ ไม่ค่อยจอด กับรถ B ใช้งานในเมือง
ขี่ ไม่ไกลแต่ติดไฟแดงมันทุกวัน เดี๋ยววิ่งเดี๋ยวจอด ถามว่ารถคันไหนใช้งานหนัก คุณจะเลือกคันไหนครับคำตอบคือรถ B ครับ การใช้งานเครื่องยนต์โดยมีความแตกต่างของการใช้กำลัง จากเครื่องยนต์บ่อยๆ อย่างการขับขี่ในเมืองที่ต้องเร่งแล้วมาเบรกไฟแดง แล้วก็ต้องมาเร่งอีกครั้งเพื่อไปชะลอที่เนินหลังเต่า เร่งอีกทีเพื่อมาจอดไฟแดงเดินเบาอีกสี่ห้านาที ไอ้อย่างนี้แหละครับเครื่องยนต์จะต้องรับงานหนักกว่าพวกที่ออกรถทีเดียวแล้ว บิดคันเร่งยาวๆ รวดเดียวถึงที่เสียอีก ดังนั้นนอกจากจะต้องคำนึงถึงการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องตามระยะที่กำหนด แล้วก็จะต้องนำเรื่องของความหนักหนา มาเป็นส่วนหนึ่งของการกำหนดระยะเวลาเปลี่ยนถ่ายน้ำมันด้วย อีกอย่างที่มีผลต่อระยะทางในการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องต่อครั้งคือเกรดของ น้ำมันเครื่องที่เราเลือกใช้ อย่างน้ำมันเกรดธรรมดาอาจจะใช้งานได้ 4000 กม. แต่ถ้าเป็นน้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ก็อาจจะถึง 6000 กม. ยิ่ง เป็นเกรดสังเคราะห์ 100% อาจจะใช้งานได้นานกว่าน้ำมันเกรดธรรมดาถึงเท่าตัว คือ 8000 กม. คุ้มค่ากับราคาที่แพงกว่าหรือเปล่าก็แล้วแต่จะคิด

ใช้งานอย่างถูกวิธีและมีสำนึก
เรื่อง สุดท้ายแต่อยากให้พวกเราชาวสองล้อใส่ใจกันให้มากๆ คือน้ำมันเครื่องที่เปลี่ยนถ่ายออกจากเครื่องยนต์นั้น มันจะเป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อมไม่ว่าจะเป็นดินหรือน้ำ และมันจะไม่ย่อยสลายไปง่ายๆ อีกด้วย ฉะนั้นจึงอยากให้พวกเราที่ถ่ายน้ำมันเครื่องด้วยตัวเองจงอย่ามักง่ายถ่าย น้ำมันเครื่องลงบนพื้นดิน หรือว่านำไปทิ้งลงแม่น้ำลำคลอง ทางที่ดี หาพาชนะสักชิ้น จะเป็นกระป๋องน้ำมันที่ใช้แล้วมาตัดด้านข้าง รองน้ำมันเวลาเราถ่ายน้ำมันเครื่องออก หลังจากที่เติมน้ำมันเครื่องใหม่เข้าไป เราก็ใช้กระป๋องใหม่นั่นแหละใส่น้ำมันเก่าที่เรารองไว้ จากนั้นก็นำไปที่ปั๊มน้ำมันหรือว่าร้านซ่อมรถมอเตอร์ไซค์ใกล้บ้าน เขาจะมีถังเก็บน้ำมันเครื่องใช้แล้วเราก็เอาไปให้เขาได้เลย ไม่ต้องกลัวว่าเป็นภาระแล้วเขาจะว่าหรอกครับ เพราะที่เขาเก็บเอาไว้น่ะ เขาเอาไว้ขายครับ คงจะได้ความรู้ไปไม่มากก็น้อยนะครับ แต่ที่อยากให้ได้กันมากๆ ก็คือความคิดที่จะรักษาโลกใบบูดๆ เบี้ยวๆ ของเราให้มันคงสภาพน่าอยู่เอาไว้นานๆ น้ำมันลิตรครึ่งลิตรอย่าคิดว่าเป็นเรื่องเล็กๆ ถือว่าทำเพื่อลูกเพื่อหลานก็ได้ครับ


เครดิคจาก....http://www.mocyc.com/study/view.php?category=1&idstudy=90#
บันทึกการเข้า


"ก็แค่ต้องการชีวิตที่อิสระ แค่ต้องการออกพจญภัย และต้องการสร้างชื่อ
ฉันไม่ต้องการทำร้ายใครแต่ถ้าใครมาขวางก็แค่ต้องจมไปพร้อมกับกองเลือด"

Thammarat
-
I'm CBRsCLUB
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,441


i มดดำ

song.na.lux@hotmail.com - -
« ตอบ #1 เมื่อ: 07, มกราคม 2011, 02:49:19 AM »

ความรู้ทั้งนั้น  >konan >konan
บันทึกการเข้า
หมาดำ
"มิตรภาพที่ดี มีอยู่ในจิตสำนึก"
CBR Commando
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,001


"เราจะเป็น...ตำนาน..และอมตะ555"

nat_wave125@hotmail.com
อีเมล์
« ตอบ #2 เมื่อ: 07, มกราคม 2011, 03:21:09 AM »

 ;) ;) ;) ;)
บันทึกการเข้า

"เพื่อชีวิตติดล้อ..ขอแค่เศษสตางค์..เติมน้ำมัน น้ำเมาาาาาาาา..."
hatyai-saveoils
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #3 เมื่อ: 07, มกราคม 2011, 03:27:09 AM »

ขอเพิ่มเติมอีกบทความนึงนะคะ น่าสนใจมากมาย
อ่านเสร็จแล้ว โปรดใช้วิจารณญาณด้วยนะคะ
ที่มาค่ะ : http://www.sahamitra.com

เบื้องหลังของน้ำมันเครื่องครับ

น้ำมันยี่ห้อไหนก็ไม่ต่างกันหรอกครับ ว่าด้วยเรื่องของน้ำมันเครื่องผมอธิบายให้ฟังแต่ออาจจะยาวหน่อยนะครับ
ยังไงก็ค่อยๆอ่านไปนะครับ น้ำมันเครื่องทำมาจาก 2 ส่วนประกอบคือ
1. Base oil หรือ น้ำมันพื้นฐาน
2. Additive หรือ สารเพิ่มคุณภาพ

1. Base oil โดยปกติแล้ว Base oil จะแบ่งออกเป็น 5 group โดย group 1 ถึง 3 เป็น Base oil
ที่ได้จากการกลั่นน้ำมันดิบ ดังนั้นเป็น base oil จากธรรมชาติ แต่การแบ่งประเภททั้ง 3 จะแบ่งตามความ
อิ่มตัวและกำมะถัน โดย group 3 จะดีที่สุดใน group base oil ธรรมดาที่มาจากการกลั่นปิโตรเลียม
รองลงมาคือ group 2 และ group 1 ตามาลำดับ ส่วน group 4 และ 5 เป็น base oil ที่สังเคราะห์ขึ้น
ด้วยกระบวนการทางเคมี โดย group 4 จะเป็น base oil ที่ชื่อว่า Polyalphaolefin (PAO) ซึ่ง base oil
ตัวนี้แหล่ะครับที่น้ำมาผลิตน้ำมันเครื่อง fully synthetic ส่วน group 5 จะเป็น base oil จากการสังเคราะห์
ตัวอื่นๆที่ไม่ใช่ Polyalphaolefin โดย base oil กลุ่มนี้จะนำไปผลิตน้ำมันหลายอย่าง อย่างเช่นน้ำมันเบรค,
coolant เป็นต้น ในบางประเทศและในประเทศไทยอนุญาตให้ผลิตน้ำมันเครื่องจาก base oil group 3
แล้วติดบนฉลากว่า "fully synthetic" หรือ "100% synthetic" ทั้งๆที่ไม่ได้เป็น base oil จากการ
สังเคราะห์ แต่เพียงเพราะแค่ว่าคุณภาพดีที่สุดในบรรดา base oil ชนิดปิโตรเลียม base oil group 4 นั้น
ไม่มีผลิตในประเทศครับ นำเข้าอย่างเดียว

2. Additive เป็นสารเติมแต่งคุณภาพน้ำมันเครื่องแล้วแต่บริษัทที่ขาย additive จะโฆษณา ซึ่งการขึ้นทะเบียน
เพื่อผลิตน้ำมันเครื่องออกมาขายนั้นต้องขึ้นทะเบียนที่กรมธุรกิจพลังงาน โดยต้องมีรายละเอียดการทดสอบน้ำมัน
กับเครื่องยนต์ต่างๆ ขอเสริมว่าในการมดสอบนั้นเสียค่าใช้จ่ายหลายๆสิบล้าน และต้องส่งทดสอบในต่างประเทศ
ทำให้ไม่มีบริษัทใดในประเทศไทยลงทุนผลิต additive ออกมาขายกัน ดังนั้น additive ที่เราใช้กันทุกวันนี้
มาจากต่างประเทศทั้งหมดครับ

โดยปกติแล้วน้ำมันเครื่องที่เราใช้กันอยุ่ทุกวันนี้บริษัทน้ำมันไม่ได้เป็นเจ้าของสูตรเองนะครับ ทุกแห่งล้วนซื้อ
สูตรมาจากบริษัทที่ขาย additive ซึ่งเค้าจะขาย additive เป็น package พร้อมผลการทดสอบกับเครื่องยนต์
ที่กล่าวมาข้างต้นในหัวข้อ additve ครับ บริษัทน้ำมันทั้งหลายก็จะเอาสูตรน้ำมันเครื่องที่ต้องเติม additive
ของบริษัทที่ขาย additive ไปยื่นจดทะเบียนที่กรมธุรกิจพลังงาน และผลิตออกมาขายกันในตลาด ซึ่งอันที่จริงแล้ว
โรงงานกลั่นน้ำมันที่ผลิต base oil ใน group 1-3 มีอยู่แค่ 2 โรงกลั่นเท่านั้น (ไม่ข้อเอ่ยนามนะครับ) โรงกลั่น
ที่กลั่นน้ำมันเชื้อเพลิงออกมาขายไม่สามารถกลั่น base oil ออกมาขายได้ครับ มันต่างกันทั้งเรื่องของ process
และแหล่งที่มาของน้ำมันดิบ ดังนั้นบริษัทน้ำมันทั้งหลายจึงซื้อ base oil จาก 2 โรงกลั่นนี้เท่านั้น ส่วน base oil
จาก group 4-5 จะนำเข้าทั้งหมด ดังนั้นไม่ว่าน้ำมันเครื่องยี่ห้อไหนจะมีที่มาเหมือนกันดังนี้ครับ

1. Base oil ถ้าเป็น base oil แบบธรรมดาจะซื้อมาจากโรงกลั่นทั้ง 2 โรงเท่านั้น บริษัทน้ำมันไม่ได้กลั่น base
oil เอง ถ้าเป็น base oil แบบสังเคราะห์ก็นำเข้ามาทั้งหมดอยู่ดี ไม่มีบริษัทน้ำมันเจ้าไหนผลิต base oil เองเลย

2. Additive อันนี้ก็ซื้อจากต่างประเทศพร้อมสูตรการผสม base oil กับ additive package ของเค้าอยู่ดี

ในส่วนของการผลิตหรือผสม base oil กับ additive บริษัทน้ำมันส่วนมากไม่ได้ผลิตเองนะครับ เค้าจะไปจ้าง
โรง blend ทำการผลิตให้ครับ

ในความเป็นจริงจึงทำให้น้ำมันเครื่องแต่ละยี่ห้อมีคุณภาพใกล้เคียงกันครับ
บันทึกการเข้า
เข้มโค้งS
สมาชิกยุคก่อน กับรถเก่าๆ
CBR Commando
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 9,713


คนเข้าใจโลก

kem_hahaha@live.com
เว็บไซต์ อีเมล์
« ตอบ #4 เมื่อ: 07, มกราคม 2011, 04:09:08 AM »

 >yes !goodjob
บันทึกการเข้า

จงรู้เท่าทันกิเลศ และอารมณ์ของตนเองอยู่เสมอ เพราะมันจะทำให้เราควบคุมตัวเองได้
เจริญพรmsn >>> kem_hahaha@live.com <<< 
เฟสบุ๊ค http://www.facebook.com/profile.php?id=1353005360
แฟนเพจ http://www.facebook.com/pages/%E0%B9%80%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%A1-%E0%B9%82%E0%B8%84%E0%B9%89%E0%B8%87S/254615134601303
VaVaX2
((((อย่าทะนงตนว่าอยู่สูง>>>>สักวันเจ้าก็ไม่พ้นดิน))))
CBR Commando
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,687



« ตอบ #5 เมื่อ: 07, มกราคม 2011, 04:44:22 AM »

 ;) ;)
บันทึกการเข้า

Humdi
ขออภัย...มือใหม่หัดขับ
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 26


ใบไม้ยิ้ม


อีเมล์
« ตอบ #6 เมื่อ: 07, มกราคม 2011, 05:26:07 AM »



Uploaded with ImageShack.us
บันทึกการเข้า

AXA
I'm CBRsCLUB
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 946


CBRแดง-ดำคาบู


อีเมล์
« ตอบ #7 เมื่อ: 07, มกราคม 2011, 05:53:28 AM »

 l13 l13  >yes
บันทึกการเข้า
cci17
I'm CBRsCLUB
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 770


หน้าที่ของ ข้าราชการ คือต้องรับใช้ ประชาชน


อีเมล์
« ตอบ #8 เมื่อ: 07, มกราคม 2011, 04:39:50 PM »

 !hoehoe !goodjob
บันทึกการเข้า

GoLf   KoRaT 081-0667778        eo_cci17@windoeslive.com

msgmsg
หักซ้าย หักขวา ไม่มีล้ม
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 297

yerm.272526@gmail.com
อีเมล์
« ตอบ #9 เมื่อ: 08, มกราคม 2011, 05:35:53 AM »

 l13
บันทึกการเข้า
Ekakachai
ขับเร็วชิดซ้าย ขับไวชิดขวา
I'm CBRsCLUB
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 770


จำกัดความเร็ว 180 กม./ 3 ชั่วโมง

ekakachai_34@windowslive.com
เว็บไซต์ อีเมล์
« ตอบ #10 เมื่อ: 09, มกราคม 2011, 12:17:26 AM »

 !goodjob !goodjob !goodjob
บันทึกการเข้า


                    Ekakachai  < เก่ง > @ ซอย  สุทธิพร ดินแดง  ก.ท.ม.
 แข่งเรือลือเลื่อง เมืองงาช้างดำ จิตรกรรมวัดภูมินทร์ แดนดินส้มสีทอง เรืองรองพระธาตุแช่แห้ง
SST
หักซ้าย หักขวา ไม่มีล้ม
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 169


อีเมล์
« ตอบ #11 เมื่อ: 09, มกราคม 2011, 12:19:47 AM »

 l4 l4
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  



หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.087 วินาที กับ 25 คำสั่ง